สรุปหุ้น SAT : บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)

 
 

SAT เชี่ยวชาญธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และเครื่องจักรกลการเกษตร ครอบคลุมทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ลูกค้าหลักคือผู้ประกอบยานยนต์ จุดแข็งคือความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม การจัดการต้นทุน และประสบการณ์กว่า 30 ปี โดยดำเนินธุรกิจในไทยเป็นหลัก พร้อมขยายสู่ตลาดต่างประเทศ


ข้อมูลเบื้องต้น

  ตลาดหลักทรัพย์ที่จดทะเบียน: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

  อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง: สินค้าอุตสาหกรรม / ยานยนต์

  SET ESG Ratings : AA

  ขนาดบริษัท (Market Cap): 5,229.88 ล้านบาท

 ข้อมูลอัพเดท ณ วันที่ 15/07/68

 

สินค้า และ บริการ

กลุ่มธุรกิจ สินค้า/บริการหลัก รายละเอียด/กลุ่มเป้าหมาย บริษัทในเครือ
ชิ้นส่วนยานยนต์ เพลาข้าง (Axle Shaft) รถกระบะ 1 ตัน และรถบรรทุกขนาดใหญ่, ลูกค้าหลักคือ OEM เช่น Mitsubishi, Toyota, Isuzu SFT
ชิ้นส่วนยานยนต์ จานเบรก, เบรกดุม รถกระบะ, รถยนต์นั่ง, ลูกค้า OEM เช่น Honda, Mitsubishi, Isuzu SBM, ICP
ชิ้นส่วนยานยนต์ ดุมล้อ, เสื้อเฟืองท้าย ฯลฯ ใช้ในรถยนต์และรถเพื่อการพาณิชย์ SBM, ICP
เครื่องจักรกลการเกษตร Rotary Blade, อุปกรณ์ต่อพ่วง ใช้ในรถแทรกเตอร์และเครื่องจักรกลเกษตร, ลูกค้าหลัก Siam Kubota SAA
Robotics & Automation Automation Systems ขยายฐานลูกค้าใหม่ เน้นอุตสาหกรรมใหม่ ไม่มีระบุชื่อบริษัท

SAT สร้างรายได้หลักจากการผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์และเครื่องจักรกลการเกษตร ครอบคลุมการออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายให้ผู้ประกอบยานยนต์ทั้งในและต่างประเทศ โดยเน้นพัฒนาเทคโนโลยี ลดต้นทุน และขยายสู่ธุรกิจใหม่อย่างหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ด้วยความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม พันธมิตรทางธุรกิจ และประสบการณ์กว่า 30 ปี เพื่อตอบสนองอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงและการแข่งขันสูงอย่างต่อเนื่อง

สัดส่วนรายได้จากแต่ละธุรกิจ

กลุ่มธุรกิจ/ผลิตภัณฑ์ รายได้ปี 2566 (ล้านบาท) สัดส่วน % รายได้ปี 2567 (ล้านบาท) สัดส่วน % การเปลี่ยนแปลง
เพลาข้าง 3,002 32.63% 2,406 31.78% 🟥ลดลง -19.85%
จานเบรกและดุมเบรก 1,833 19.92% 1,448 19.13% 🟥ลดลง -21.00%
ชิ้นส่วนเครื่องจักรกลเกษตร 1,441 15.66% 1,430 18.89% 🟥ลดลง -0.76%
ผลิตภัณฑ์และบริการอื่น ๆ 2,813 30.57% 2,145 28.33% 🟥ลดลง -23.75%
รายได้อื่น ๆ 112 1.22% 142 1.88% 🟩เพิ่มขึ้น 26.79%
รวม 9,201 100.00% 7,571 100.00% 🟥ลดลง -17.72%

ข้อมูลล่าสุดของปี 2567 จาก 56-1 ของบริษัท

**สามารถอัปเดตข้อมูลล่าสุดได้ คลิกที่นี่  Liberator -เทรดหุ้นไทย หุ้น US - Apps on Google Play

 

ความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน

🔹 ฐานรายได้กระจายจากหลายธุรกิจชิ้นส่วนอุตสาหกรรม

+รายได้หลักของ SAT มาจากการผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ เช่น เพลาข้าง จานเบรก ดุมเบรก รวมถึงชิ้นส่วนเครื่องจักรกลการเกษตร ครอบคลุมตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีฐานลูกค้าหลักเป็นผู้ประกอบยานยนต์ (OEM) เช่น Mitsubishi, Toyota, Isuzu นอกจากนี้ SAT ยังมีรายได้จากธุรกิจใหม่ เช่น ธุรกิจหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ช่วยกระจายความเสี่ยง และลดการพึ่งพาธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเพียงอย่างเดียว

🔹 จุดแข็งด้านวิศวกรรมและความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุน

+SAT มีจุดแข็งสำคัญคือความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมการผลิตที่ลึกและแม่นยำ เป็นผู้ผลิตเพลาข้างรายใหญ่ที่สุดในประเทศ มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และได้รับการถ่ายทอดเทคนิคจากพันธมิตรต่างประเทศ โดย SAT มุ่งเน้นการปรับปรุงกระบวนการผลิต เพื่อลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพ และประสิทธิภาพ เช่น การใช้ระบบอัตโนมัติและการติดตั้ง Solar Cell ช่วยลดต้นทุนพลังงานและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

🔹 ความยืดหยุ่นในการปรับตัวตามภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์

+SAT แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นสูง เช่น การขยายไปสู่ธุรกิจหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เพื่อลดการพึ่งพาตลาดรถกระบะที่อาจผันผวนตามเศรษฐกิจและทิศทางอุตสาหกรรม รวมถึงการปรับผลิตภัณฑ์และกระบวนการให้เหมาะกับแนวโน้มยานยนต์ไฟฟ้า (EV) แม้ต้องเผชิญการแข่งขันจากผู้ผลิตต่างประเทศที่มีต้นทุนต่ำ SAT ยังคงเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาการเติบโตและความสามารถในการแข่งขัน

🔹 โอกาสเติบโตจากการขยายตลาดและธุรกิจใหม่

+แม้ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์จะเผชิญการแข่งขันและความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี SAT ยังมีโอกาสเติบโตจากการขยายธุรกิจใหม่ เช่น การร่วมทุนในธุรกิจ EV ผ่าน Somboon Tron Energy Co., Ltd การขยายตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรไปยังลูกค้าต่างประเทศ และการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง ซึ่งจะช่วยสร้างแหล่งรายได้ใหม่ เพิ่มความแข็งแกร่ง และลดความเสี่ยงของธุรกิจในระยะยาว

ความเสี่ยงของธุรกิจและมาตราการการรับมือ

🔹 ความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากกลุ่มลูกค้าหลัก

-ความเสี่ยง: รายได้ของ SAT ส่วนใหญ่ยังมาจากกลุ่มลูกค้าเดิมในอุตสาหกรรมรถกระบะ 1 ตัน และผู้ประกอบรถยนต์รายใหญ่ เช่น Mitsubishi, Toyota, Isuzu หากเกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม เช่น ความนิยมยานยนต์ไฟฟ้าที่อาจใช้ชิ้นส่วนน้อยลง หรือการย้ายฐานการผลิตของลูกค้า อาจกระทบรายได้และผลประกอบการของบริษัทได้อย่างมีนัยสำคัญ

+มาตรการการรับมือ: SAT ขยายธุรกิจไปยังชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า (EV Components) และธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตร รวมถึงธุรกิจหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เพื่อลดการพึ่งพาตลาดรถกระบะเพียงอย่างเดียว และกระจายแหล่งรายได้

🔹 ความเสี่ยงจากการแข่งขันสูงในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์

-ความเสี่ยง: ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์มีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะจากผู้ผลิตในประเทศต้นทุนต่ำ (Low Cost Countries) ซึ่งมีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าและอาจเสนอราคาที่ถูกกว่า หาก SAT ไม่สามารถรักษาข้อได้เปรียบด้านต้นทุนและคุณภาพได้ อาจสูญเสียส่วนแบ่งตลาด

+มาตรการการรับมือ: SAT พัฒนาเทคโนโลยีการผลิต ปรับกระบวนการให้ยืดหยุ่น และใช้ระบบอัตโนมัติ รวมถึงบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างใกล้ชิด และมองหาโอกาสผลิตสินค้ามูลค่าเพิ่มสูงเพื่อลดแรงกดดันด้านราคา

🔹 ความเสี่ยงจากความผันผวนของอุตสาหกรรมยานยนต์

-ความเสี่ยง: ความต้องการชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นอยู่กับยอดการผลิตรถยนต์ในประเทศและตลาดส่งออก ซึ่งผันผวนตามเศรษฐกิจ ดอกเบี้ยสูง หรือปัจจัยอื่น เช่น การเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าที่อาจส่งผลให้ชิ้นส่วนบางประเภทไม่จำเป็นอีกต่อไป

+มาตรการการรับมือ: SAT ติดตามแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างใกล้ชิด ปรับพอร์ตสินค้าให้สอดรับกับ EV และตลาดใหม่ เช่น ธุรกิจหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ และธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตร เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในตลาดรถยนต์

🔹 ความเสี่ยงด้านการบริหารต้นทุนวัตถุดิบ

-ความเสี่ยง: วัตถุดิบหลักของ SAT คือเหล็ก ซึ่งเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ราคาผันผวนตามตลาดโลก หากราคาพุ่งสูงขึ้น อาจกระทบต้นทุนการผลิตและความสามารถในการแข่งขันด้านราคา

+มาตรการการรับมือ: SAT กระจายแหล่งจัดหาวัตถุดิบทั้งในและต่างประเทศ พัฒนาวัสดุทดแทนร่วมกับคู่ค้า และใช้เทคโนโลยีเพื่อลดปริมาณการใช้วัตถุดิบต่อหน่วยการผลิต อีกทั้งมีการเจรจาปรับราคาเพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงกับลูกค้าในบางผลิตภัณฑ์

🔹 ความเสี่ยงจากต้นทุนการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายคงที่สูง

-ความเสี่ยง: ธุรกิจของ SAT ต้องใช้เครื่องจักรและโรงงานที่มีค่าใช้จ่ายคงที่สูง หากยอดการผลิตลดลงอาจทำให้ต้นทุนต่อหน่วยสูงขึ้น ส่งผลต่อกำไรสุทธิและความสามารถในการแข่งขัน

+มาตรการการรับมือ: SAT พัฒนาแผนปรับลดค่าใช้จ่าย เช่น การปรับสายการผลิตให้ยืดหยุ่น การลงทุนระบบอัตโนมัติเพื่อลดค่าแรง และติดตั้ง Solar Cell เพื่อลดค่าไฟฟ้า รวมถึงการปรับโครงสร้างการผลิตเพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณคำสั่งซื้อจริง

โครงการในอนาคต

🔹 พัฒนาศักยภาพผลิตภัณฑ์และสร้างสินค้านวัตกรรมใหม่ SAT มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์ยุคใหม่ เช่น การพัฒนาเพลาข้างและชิ้นส่วนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV Components) การปรับปรุงน้ำหนักชิ้นส่วนให้เบาขึ้น และการนำวัสดุใหม่ เช่น เส้นใยธรรมชาติมาใช้ในผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความแตกต่าง เพิ่มมูลค่า และรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว

🔹 ขยายฐานลูกค้าและตลาดทั้งในไทยและต่างประเทศ SAT เดินหน้าขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเน้นรักษาฐานลูกค้า OEM รายใหญ่ในไทย เช่น Mitsubishi, Toyota, Isuzu พร้อมมองหาโอกาสใหม่ในตลาดต่างประเทศ เช่น การส่งออกชิ้นส่วนไปยุโรป แอฟริกาใต้ และสหรัฐอเมริกา รวมถึงการขยายธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตรและธุรกิจหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างโอกาสเติบโตระยะยาว

🔹 ใช้เงินลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถแข่งขัน SAT ใช้เงินทุนจากการดำเนินงานและการลงทุนอย่างรอบคอบ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต เช่น ระบบอัตโนมัติและการใช้พลังงานสะอาด รวมถึงลงทุนในธุรกิจใหม่ เช่น ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าและธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตร พร้อมปรับปรุงเครื่องจักรและกระบวนการผลิต เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน

🔹 พัฒนากระบวนการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน SAT ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เช่น การติดตั้ง Solar Cell เพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า การปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดของเสีย การใช้น้ำและวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการจัดการของเสียที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการเติบโตของธุรกิจและการดูแลสิ่งแวดล้อม

🔹 ขับเคลื่อนมาตรฐาน ESG และพัฒนาทีมงานมืออาชีพ SAT ให้ความสำคัญกับหลักธรรมาภิบาล (Good Corporate Governance) และการพัฒนาบุคลากรในทุกระดับ ทั้งด้านเทคนิคการผลิต วิศวกรรม นวัตกรรม และการจัดการต้นทุน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้ถือหุ้นในระยะยาว

กราฟราคาหุ้น : SAT


** เพื่อนๆสามารถคลิ้กที่รูปกราฟ เพื่อติดตามข้อมูล RealTime ล่าสุดของวันนี้ได้นะ **

เว็บไซต์บริษัท :  SAT
56-1 รายงานประจำปี 2567 (Annual Report) : คลิ้กที่นี่เพื่อดาวน์โหลด

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

🔹 SAT มีรายได้หลักจากธุรกิจใด? รายได้หลักของ SAT มาจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ โดยในปี 2567 รายได้ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มเพลาข้าง (Axle Shaft) คิดเป็น 31.78% ของรายได้รวม รองลงมาคือกลุ่มจานเบรกและดุมเบรก คิดเป็น 19.13% และกลุ่มชิ้นส่วนเครื่องจักรกลการเกษตร คิดเป็น 18.89% ส่วนที่เหลือมาจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น ดุมล้อ เสื้อเฟืองท้าย และรายได้จากธุรกิจร่วมทุน SAT มีรายได้หลักจากตลาดในประเทศไทย แต่มีการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ เช่น แอฟริกาใต้ สหรัฐอเมริกา และยุโรป เพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างโอกาสการเติบโต

🔹 จุดเด่นที่สุดที่ทำให้ SAT น่าสนใจคืออะไร? จุดเด่นของ SAT คือความเชี่ยวชาญด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีคุณภาพสูงและเป็นผู้นำตลาดเพลาข้างในประเทศไทย ครองส่วนแบ่งตลาดมากถึง 88% อีกทั้ง SAT มีความสามารถด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย พร้อมการจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ SAT ยังมีพันธมิตรทางเทคนิคจากต่างประเทศ และประสบการณ์กว่า 30 ปีในธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ ทำให้บริษัทสามารถปรับตัวและรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงสูง

🔹 SAT มีแผนการเติบโตในอนาคตอย่างไร? ใน One Report 2567 ของ SAT บริษัทมีแผนขยายธุรกิจไปสู่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ผ่านการร่วมทุนกับ Tron Energy Technology Co., Ltd. ในโครงการ Somboon Tron Energy Co., Ltd. ซึ่งเริ่มส่งมอบรถสามล้อไฟฟ้าไปยังตลาดยุโรปแล้ว นอกจากนี้ SAT ยังเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตร และธุรกิจหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เพื่อลดการพึ่งพารายได้จากธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์เพียงอย่างเดียว และสร้างการเติบโตระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้น

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

 
ซื้อหุ้น SAT ได้ที่ Liberator | ไม่มีขั้นต่ำ เซฟต้นทุนให้คุณตั้งแต่บาทแรก