อย่าช้อนผิดตัว! - 3 สัญญาณสำคัญที่บอกว่าหุ้นกำลัง 'ลงเหว' หรือ 'กำลังจะเด้งกลับ'

กลยุทธ์ Bottom Fishing หรือการ "ช้อนซื้อ" หุ้นในช่วงที่ราคาตกต่ำเป็นเกมที่ต้องใช้ความกล้าหาญ แต่ความสำเร็จไม่ได้มาจากการ "เดา" แต่มาจากการ "คัดกรอง" อย่างมีเหตุผล การช้อนซื้อหุ้นที่มีปัญหาพื้นฐานถาวรอาจทำให้คุณขาดทุนอย่างหนักได้ นี่คือ 3 สัญญาณสำคัญที่ใช้แยกแยะระหว่าง "หุ้นกำลังจะเด้งกลับ" กับ "หุ้นที่กำลังลงเหว"

1. สัญญาณจาก "งบกระแสเงินสด" (Cash Flow)
งบกระแสเงินสดคือหัวใจสำคัญที่บอกถึงสภาพคล่องที่แท้จริงของบริษัท กำไรตามบัญชีอาจถูกตกแต่งได้ แต่เงินสดที่เข้าออกบริษัทนั้นยากที่จะโกง
 
 
หุ้นที่กำลังจะเด้งกลับ (สัญญาณดี):
 
#กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน(CFO)เป็นบวกและมีแนวโน้มดีขึ้น:
 
แม้บริษัทจะยังขาดทุนตามบัญชี แต่ถ้าเงินสดที่ได้จากการทำธุรกิจหลัก (CFO) ยังเป็นบวกหรือเริ่มกลับมาเป็นบวก แสดงว่าธุรกิจยังขายของได้จริงและมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะดำเนินกิจการต่อไปได้
 
บริษัทที่มีแผนฟื้นตัวที่ดีจะแสดงให้เห็นว่าสามารถใช้เงินสดจากการดำเนินงานไปลดภาระหนี้สินได้
 
หุ้นกำลังลงเหว (สัญญาณอันตราย):
 
หมายความว่าบริษัทขายของก็ยังไม่ได้เงินสดมากพอที่จะหมุนเวียนธุรกิจ ต้องกู้ยืมหรือระดมทุนอยู่เรื่อยไป
 
บริษัทต้องออกหุ้นใหม่หรือกู้เงินเพิ่มเพื่อนำมาใช้จ่ายในกิจกรรมปกติ แสดงว่าบริษัทกำลังเข้าสู่ภาวะขาดสภาพคล่องอย่างหนัก
 
2. สัญญาณจาก "การเปลี่ยนโครงสร้าง" (Structural Change)
 
ราคาหุ้นจะเด้งกลับอย่างมีนัยสำคัญได้ ต้องมี เหตุผลที่แข็งแกร่ง รองรับ เหตุผลนั้นมักมาจากการเปลี่ยนโครงสร้างที่ส่งผลกระทบต่ออนาคตของธุรกิจในระยะยาว
 
หุ้นที่กำลังจะเด้งกลับ (สัญญาณดี):
 
#เปลี่ยนทีมผู้บริหาร/ผู้ถือหุ้นใหญ่:
 
การเข้ามาของผู้บริหารชุดใหม่ที่มีวิสัยทัศน์หรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่เชี่ยวชาญในธุรกิจเดียวกัน มักเป็นสัญญาณของการปรับปรุงที่จริงจัง (เช่น กรณี Apple กลับมาของ Steve Jobs)
 
#ปรับโครงสร้างธุรกิจ/หนี้สินสำเร็จ:
 
บริษัทประกาศปรับโครงสร้างหนี้และได้รับอนุมัติจากเจ้าหนี้ หรือมีการขายธุรกิจที่ไม่ทำกำไรออกไปเพื่อโฟกัสในธุรกิจหลักที่ทำเงินได้ดีขึ้น นี่คือการ "ผ่าตัดใหญ่" ที่จำเป็นต่อการฟื้นตัว
 
หุ้นกำลังลงเหว (สัญญาณอันตราย):
 
#ปัญหาเกิดจากคู่แข่ง/เทคโนโลยีถาวร:
 
ปัญหาของบริษัทเกิดจากการถูก Disrupt ด้วยเทคโนโลยีที่ถาวร หรือคู่แข่งที่แข็งแกร่งกว่าในระยะยาว (เช่น ธุรกิจตู้โทรศัพท์สาธารณะที่ถูกมือถือเข้ามาแทนที่) ปัญหาเหล่านี้มักจะแก้ไขได้ยากมาก
 
ผู้บริหารชุดเดิมที่นำพาบริษัทเข้าสู่วิกฤตยังคงอยู่ โดยไม่มีแผนฟื้นฟูที่เป็นรูปธรรมหรือขาดวิสัยทัศน์ที่จะสู้กับตลาดที่เปลี่ยนไป
 
3. สัญญาณจาก "ราคาถูกเมื่อเทียบกับสินทรัพย์" (Asset Value)
การช้อนซื้อที่แท้จริงคือการซื้อของถูกที่มี "มูลค่ารองรับ" แม้ธุรกิจจะแย่ แต่ราคาหุ้นก็ควรมีสินทรัพย์ที่มีค่ามารองรับไว้
 
หุ้นที่กำลังจะเด้งกลับ (สัญญาณดี):
 
หุ้นที่ราคาสูงกว่ามูลค่าสินทรัพย์ที่จับต้องได้ของบริษัท (P/B ต่ำกว่า 1) มาก ๆ บ่งบอกว่าคุณกำลังซื้อสินทรัพย์ของบริษัทในราคาลดพิเศษ ซึ่งเป็น Margin of Safety ที่ดี
 
บริษัทมีสินทรัพย์ที่มีค่ามากแต่ไม่ถูกนำมาใช้ประโยชน์เต็มที่ เช่น ที่ดินราคาแพงที่ไม่จำเป็นต่อการดำเนินงาน หรือบริษัทย่อยที่ทำกำไรได้ดีแต่ตลาดมองข้าม
 
หุ้นกำลังลงเหว (สัญญาณอันตราย):
 
สินทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นสินค้าคงคลังที่ขายไม่ออก หรือลูกหนี้ที่รอการตัดหนี้สูญ ทำให้มูลค่าทางบัญชีที่เห็นนั้นไม่น่าเชื่อถือ
 
บริษัทมีแต่เครื่องจักรเก่าหรือโรงงานที่ไม่มีใครอยากซื้อ ซึ่งยากต่อการแปลงเป็นเงินสดเพื่อนำมาฟื้นฟูกิจการ
 
สรุป
การทำ Bottom Fishing ไม่ใช่การซื้อหุ้นราคาถูกทุกตัว แต่คือการ ซื้อหุ้นดีที่มีปัญหาชั่วคราว ในราคาที่ตลาดกำลังตื่นตระหนก การวิเคราะห์ต้องเข้มข้นและเน้นไปที่สัญญาณการฟื้นตัวที่มาจาก สภาพคล่องทางการเงิน และ การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ที่ชัดเจนเท่านั้น หากคุณสามารถแยกแยะ "หุ้นซอมบี้" ออกจาก "หุ้นที่กำลังฟื้นคืนชีพ" ได้ คุณก็จะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่านักลงทุนทั่วไปได้อย่างแท้จริง
===================
FINCODE
ซีรีส์ที่จะมาปลดล็อก CODE ลับทางการเงิน
ทั้งเรื่อง การลงทุน และ เรื่องฟินๆ ในโลกการเงิน
ที่ถ้าคุณรู้และใช้ได้จริง วิธีทางการเงินจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
และนี่เป็นแค่จุดเริ่มต้น…
เพราะยังมี FINCODE อีกหลายโค้ดลับ
ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีใช้ “CODEการเงิน” เพื่อให้ชีวิตฟินขึ้น
===================
บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ในการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลก-0151-01 และการเป็นตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ใบอนุญาตเลขที่ ส1-0151-01