สรุปหุ้น LH : บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)

บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจพัฒนา อสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย ในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยประเภท บ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม ผ่านการดำเนินงานที่ครอบคลุมในเขตกรุงเทพมหานคร, ปริมณฑล และจังหวัดเศรษฐกิจหลัก เช่น เชียงใหม่, เชียงราย, นครราชสีมา, ขอนแก่น, ภูเก็ต และอุดรธานี

นอกจากนี้ LH ยังมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเช่าและบริการ ครอบคลุมศูนย์การค้า, โรงแรม และอพาร์ตเมนต์ในประเทศไทยและต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา รวมถึงธุรกิจการลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ เช่น ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์ และกองทุนอสังหาริมทรัพย์


ข้อมูลเบื้องต้น

  ตลาดหลักทรัพย์ที่จดทะเบียน: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

  อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง: อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง / พัฒนาอสังหาริมทรัพย์

  SET ESG Ratings : AA

  ขนาดบริษัท (Market Cap):  47,798.85 ล้านบาท

 ข้อมูลอัพเดท ณ วันที่ 22/05/68

 

สินค้า และ บริการ

กลุ่มธุรกิจ ประเภทหลัก รายละเอียด แบรนด์ / ตัวอย่าง
อสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย พัฒนา – ขาย - บ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม, คอนโดมิเนียม- โมเดล “สร้างเสร็จก่อนขาย”- ทำเลศักยภาพทั่วประเทศ Land & Houses, Nantawan, Mantana, Chaiyapruek, Villaggio, Siwalee, The Room, The Bangkok
อสังหาริมทรัพย์เพื่อการเช่า ปล่อยเช่า - สำนักงาน, ศูนย์การค้า, โรงแรม- รายได้ประจำ (Recurring Income)- พัฒนา + ปล่อยเช่าเอง หรือขายเข้ากอง REIT LH Tower, Terminal 21, Grande Centre Point Hotel
การลงทุนในต่างประเทศ อพาร์ตเมนต์ / โรงแรม - ลงทุนในอสังหาฯ ให้เช่าในสหรัฐฯ ผ่าน LH USA- มีทั้งเรสซิเดนซ์และโรงแรม- ล่าสุดซื้อ Residence Inn Manhattan Beach Land and Houses U.S.A. Inc. (LH USA)
การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง Strategic Holding - ลงทุนในกิจการสนับสนุนอสังหาฯ และการเงิน- เพิ่มโอกาสเติบโต + กระจายความเสี่ยง LH Bank (LHFG) – ธนาคารQH – อสังหาฯQ-CON – วัสดุก่อสร้างLHHOTEL REIT, LHSC – REIT / Trust
** ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่เว็ปไซต์บริษัท**

LH  มีรายได้หลักจากการขายบ้านและคอนโดฯ ปี 2567 รับรู้รายได้ 16,100 ลบ. เปิดโครงการใหม่ 12 โครงการ รวมถึงแบรนด์ “vie” และ “NANTAWAN Pool Villa” รายได้ค่าเช่าเติบโต 17% จากโรงแรม Grande Centre Point และโรงแรมใหม่ในสหรัฐฯ พร้อมขาย Terminal 21 Pattaya เข้าทรัสต์ LHSC ส่วนธุรกิจลงทุนรับรู้กำไร 3,362 ลบ. โตจาก LHHOTEL ที่เริ่มรับรู้รายได้เต็มปี

  

สัดส่วนรายได้จากแต่ละธุรกิจ

ผลิตภัณฑ์ 2566 สัดส่วน (%)   2567  สัดส่วน % การเปลี่ยนแปลง yoy
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ - - - - -
รายได้บ้านเดี่ยว 16,703.00 55.40% 14,249 50.60% 🟥ลดลง -14.69%
รายได้ทาวน์เฮ้าส์ 1,225.00 4.10% 935 3.30% 🟥ลดลง -23.67%
รายได้คอนโดมิเนียม 1,038.00 3.40% 916 3.30% 🟥ลดลง -11.75%
รายได้ที่ดินเปล่า - - - - ไม่มีข้อมูล
รวมรายได้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 18,966.00 62.90% 16,100 57.20% 🟥ลดลง -15.11%
รายได้ค่าเช่าและค่าบริการ 7,779.00 25.80% 9,121 32.40% 🟩เพิ่มขึ้น 17.25%
กำไรจากการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า 2,501.00 8.30% 1,973 7% 🟥ลดลง -21.11%
รายได้อื่น 925.00 3.10% 957 3.40% 🟩เพิ่มขึ้น 3.46%
รวมรายได้ 1–4 30,171.00 100.00% 28,151 100% 🟥ลดลง -6.70%
ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 3,300.00 10.90% 3,362 11.90% 🟩เพิ่มขึ้น 1.88%
รายได้ทั้งสิ้น 5+6 33,471.00 110.90% 31,513 111.90% 🟥ลดลง -5.85%

ข้อมูลล่าสุดของปี 2567 จาก 56-1 ของบริษัท
**สามารถอัปเดตข้อมูลล่าสุดได้ คลิกที่นี่  Liberator -เทรดหุ้นไทย หุ้น US - Apps on Google Play

 

ความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน

🔹 แบรนด์หลากหลาย ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย

+ มีตั้งแต่แบรนด์จับกลุ่มหรู (Nantawan, The Bangkok) ไปจนถึงกลุ่มแมส (Villaggio, Siwalee, Chaiyapruek)
+ ปี 2567 เปิดแบรนด์ใหม่ “vie” เจาะตลาดคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ

🔹 มีรายได้ประจำจากทรัพย์สินให้เช่า

+ เช่น โรงแรม Grande Centre Point, อาคาร LH Tower
+ สร้างกระแสเงินสดสม่ำเสมอ ไม่ผันผวนเหมือนยอดขายปี 2567
+ รายได้จากค่าเช่าและบริการ = 9,121 ลบ. (+17%)

🔹  ขยายพอร์ตต่างประเทศผ่าน LH USA

+ ลงทุนในโรงแรมและอพาร์ตเมนต์ในสหรัฐฯ
+
ปี 2567 ซื้อโรงแรมใหม่ Residence Inn Manhattan Beach มูลค่า 2,438 ลบ.

 

ความเสี่ยงของธุรกิจและมาตราการการรับมือ

🔹 ความเสี่ยงจากกำลังซื้อในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังอ่อนตัว

-  ความเสี่ยง : ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า, หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ทำให้ความสามารถในการซื้อบ้านของลูกค้าลดลง

+ มาตรการการรับมือ:  
✅ เปิดโครงการเฉพาะทำเลที่มีดีมานด์ชัดเจน และควบคุมจำนวนหน่วยขายไม่ให้เกินความต้องการ
✅ ปรับพอร์ตสินค้าให้ครอบคลุมหลายระดับราคา เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าในช่วงเศรษฐกิจไม่แน่นอน
✅ เสริมจุดแข็งด้วยแบรนด์ใหม่ “vie” และพัฒนาแบบบ้านให้ตอบโจทย์กำลังซื้อจริงในแต่ละทำเล

🔹 ความเสี่ยงจากต้นทุนก่อสร้างและราคาวัสดุที่เพิ่มสูงขึ้น

- ความเสี่ยง:  ราคาวัสดุก่อสร้างและค่าแรงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนพัฒนาโครงการสูงขึ้น ซึ่งอาจกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นของบริษัท

+ มาตรการการรับมือ:  
✅ ใช้กลยุทธ์จัดซื้อวัสดุก่อสร้างล่วงหน้า (Long-term Procurement) กับซัพพลายเออร์รายใหญ่
✅ นำเทคโนโลยีการก่อสร้างแบบสำเร็จรูป และระบบบริหารจัดการต้นทุนมาช่วยควบคุม
✅ ปรับแบบบ้านและกระบวนการพัฒนาโครงการให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เปลี่ยนแปลง

🔹 ความเสี่ยงจากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดอสังหาริมทรัพย์

- ความเสี่ยง: ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายใหม่จำนวนมาก เข้าสู่ตลาดอสังหาฯ ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาและโปรโมชั่น ซึ่งอาจกระทบส่วนแบ่งตลาดของบริษัท

+ มาตรการการรับมือ:
✅ เน้นความแตกต่างของโครงการ เช่น ฟังก์ชัน Smart Home, พื้นที่สีเขียว และการออกแบบที่โดดเด่น
✅ ใช้โมเดล “สร้างเสร็จก่อนขาย” เพิ่มความเชื่อมั่น ลดโอกาสลูกค้าเปลี่ยนใจ
✅ เพิ่มประสิทธิภาพช่องทางขายผ่านระบบดิจิทัล เช่น เว็บไซต์ 3D Virtual Tour และแอปดูโครงการ

 

โครงการในอนาคต

🔹 เปิดโครงการแนวราบใหม่ (ปี 2568)  มีแผนเปิดโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 11,180 ล้านบาท

🔹 ขยายแบรนด์ “vie” และ “MANTANA” ทำเลใหม่

🔹 ภูเก็ต มี 4 โครงการอยู่ระหว่างวางแผน ดำเนินการโดยบริษัทลูก (LM)

 

กราฟราคาหุ้น : LH

** เพื่อนๆสามารถคลิ้กที่รูปกราฟ เพื่อติดตามข้อมูล RealTime ล่าสุดของวันนี้ได้นะ **

เว็บไซต์บริษัท :  LH Liberator -เทรดหุ้นไทย หุ้น US - Apps on Google Play
56-1 รายงานประจำปี 2567 (Annual Report) : คลิ้กที่นี่เพื่อดาวน์โหลด

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

🔹 รายได้หลักของ LH มาจากธุรกิจใด?  : รายได้หลักของ LH  มาจากรายได้ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (บ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮ้าส์, คอนโดมิเนียม)   คิดเป็น 57.2% ของรายได้ทั้งหมด​

🔹 ทำไมควรลงทุนใน LH  ? :   รายได้หลักมั่นคงจากแนวราบ ,มีรายได้ประจำจากทรัพย์สินให้เช่า , กระจายการลงทุนดี ทั้งในประเทศ–ต่างประเทศ

🔹 LH  มีโครงการอะไรในอนาคต? :  เปิดโครงการแนวราบใหม่ (ปี 2568)  มีแผนเปิดโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 11,180 ล้านบาท , ขยายแบรนด์ “vie” และ “MANTANA” ทำเลใหม่

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

 
ซื้อหุ้น LH ได้ที่ Liberator | ไม่มีขั้นต่ำ เซฟต้นทุนให้คุณตั้งแต่บาทแรก