สรุปหุ้น AH : บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน)
สรุปหุ้น AH : บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน)
ข้อมูลเบื้องต้น
⏩ ตลาดหลักทรัพย์ที่จดทะเบียน: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
⏩ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง: สินค้าอุตสาหกรรม / ยานยนต์
⏩ SET ESG Ratings : A
⏩ ขนาดบริษัท (Market Cap): 4,861.34 ล้านบาท
⏩ ข้อมูลอัพเดท ณ วันที่ 11/06/68
สินค้า และ บริการ
กลุ่มธุรกิจ | สินค้า/บริการหลัก | รายละเอียด/กลุ่มเป้าหมาย | บริษัทในเครือ |
ชิ้นส่วนยานยนต์ | Metal, Plastic, Casting, Tooling | OEM & Tier 1 เช่น Ford, Isuzu, Nissan |
AHP, AHT, AHA, APR ฯลฯ
|
ศูนย์บริการ/ตัวแทนจำหน่าย | รถยนต์ Honda, MG | ผู้บริโภคทั่วไป | TSR, AB |
IoT | Smart Factory, Connected Mobility | ผู้ผลิตรถยนต์, ข้อมูลยานยนต์ | AITS, IoT group |
AH สร้างรายได้หลักจากการผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ให้กับผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ (OEM) ทั้งในและต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก พร้อมขยายธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และศูนย์บริการในประเทศควบคู่กัน และต่อยอดสู่ธุรกิจเทคโนโลยีเชื่อมต่อยานยนต์ (IoT & Connected Mobility) เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของอุตสาหกรรมยานยนต์ และแนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
สัดส่วนรายได้จากแต่ละธุรกิจ
กลุ่มธุรกิจ | รายได้ปี 2566 (ลบ.) | สัดส่วน (%) | รายได้ปี 2567 (ลบ.) | สัดส่วน (%) | การเปลี่ยนแปลง |
ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ | 21,863.20 | 71.94% | 18,312.60 | 67.82% | 🟥ลดลง -16.24% |
ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการ
|
8,513.70 | 28.02% | 8,682.90 | 32.16% | 🟩เพิ่มขึ้น 1.99% |
ธุรกิจเทคโนโลยี IoT | 1260.00% | 0.04% | 670.00% | 0.02% | 🟥ลดลง -46.83% |
รวมรายได้จากการดำเนินงาน | 30,389.50 | 100% | 27,002.10 | 100% | 🟥ลดลง -11.15% |
ข้อมูลล่าสุดของปี 2567 จาก 56-1 ของบริษัท
**สามารถอัปเดตข้อมูลล่าสุดได้ คลิกที่นี่
ความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน
🔹 มีสายผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ครบวงจร รองรับความต้องการ OEM ทั่วโลก
+AH ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์หลากหลายประเภท ทั้งเหล็กหล่อ เหล็กปั๊ม ขึ้นรูป พลาสติก ชิ้นส่วนหล่อ เครื่องมือแม่พิมพ์ และระบบประกอบ ทำให้สามารถรองรับคำสั่งซื้อจากผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ (OEM) ได้ครอบคลุม ไม่พึ่งพิงผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่งมากเกินไป
🔹 มีฐานลูกค้าระดับโลกในกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วน Tier 1–2
+ลูกค้าหลักของ AH ได้แก่ Ford, Isuzu, Nissan, Toyota, Mazda, Renault, Stellantis, Continental ฯลฯ ที่มีการสั่งซื้อแบบต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมีรายได้ recurring และสามารถขยายความร่วมมือในระยะยาวได้
🔹 เครือข่ายโรงงานในหลายประเทศ ช่วยกระจายความเสี่ยงและเข้าถึงตลาดท้องถิ่น
+AH มีโรงงานผลิตมากกว่า 40 แห่งในไทย มาเลเซีย จีน โปรตุเกส และอินเดีย ทำให้สามารถผลิตและส่งมอบสินค้าได้ใกล้ลูกค้า ลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับภูมิภาคและโลก
🔹 มีพันธมิตรธุรกิจระดับโลก สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและขยายตลาด
+AH มีการร่วมทุนกับพันธมิตรชั้นนำ เช่น Bethel (จีน), Sakthi (อินเดีย), Kautex Textron (เยอรมนี) ซึ่งเสริมความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ รวมถึงช่วยเปิดตลาดใหม่ในต่างประเทศ
🔹 เน้นประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารต้นทุนอย่างเข้มงวด
+บริษัทมีกระบวนการผลิตที่ผ่านมาตรฐานสากล (IATF 16949, ISO 14001) และใช้ระบบบริหารจัดการคุณภาพ-พลังงาน-สิ่งแวดล้อม เพื่อลดของเสีย ลดต้นทุน และเพิ่ม margin ได้ดี แม้ในสภาวะอุตสาหกรรมผันผวน
ความเสี่ยงของธุรกิจและมาตราการการรับมือ
🔹 ความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากอุตสาหกรรมยานยนต์แบบดั้งเดิม (ICE)
-ความเสี่ยง: การเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และแนวโน้มลดใช้เครื่องยนต์สันดาป อาจทำให้ชิ้นส่วนแบบดั้งเดิมที่ AH ผลิตอยู่ถูกลดบทบาทลง
+มาตรการการรับมือ: บริษัทลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตใหม่ รองรับชิ้นส่วนสำหรับ EV รวมถึงขยายธุรกิจ IoT และระบบ Connected Mobility เพื่อเพิ่มรายได้จากกลุ่มเทคโนโลยีใหม่ที่เติบโตเร็ว
🔹 ความเสี่ยงจากความผันผวนด้านต้นทุนวัตถุดิบและพลังงาน
-ความเสี่ยง: ราคาวัตถุดิบ เช่น เหล็ก อลูมิเนียม หรือพลังงาน (ไฟฟ้า ก๊าซ) ที่ผันผวนในตลาดโลก อาจส่งผลต่อ margin และต้นทุนการผลิตของบริษัท
+มาตรการการรับมือ: AH ปรับโครงสร้างการจัดซื้อแบบกระจายแหล่ง พร้อมใช้นโยบาย Hedging ในบางกรณี และลงทุนในระบบผลิตพลังงานสะอาด เช่น Solar Rooftop และการใช้พลังงานหมุนเวียนในโรงงาน
🔹 ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่ (OEM)
-ความเสี่ยง: ลูกค้ารายใหญ่บางรายมีอำนาจต่อรองสูง หากลดคำสั่งซื้อหรือย้ายฐานการผลิต อาจกระทบรายได้อย่างมีนัย
+มาตรการการรับมือ: บริษัทขยายฐานลูกค้าไปยังหลายประเทศ (เช่น มาเลเซีย โปรตุเกส อินเดีย) ผ่าน JV และบริษัทย่อย พร้อมเพิ่มกลุ่มลูกค้าใน Tier 1–2 และพัฒนาโมเดล B2B ที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
🔹 ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและแรงกดดันด้าน ESG
-ความเสี่ยง: มาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้นทั้งในไทยและประเทศคู่ค้า เช่น EU, จีน, อาจทำให้เกิดต้นทุน compliance เพิ่มขึ้น รวมถึงความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์หากไม่ปฏิบัติตาม
+มาตรการการรับมือ: บริษัทวางเป้าหมายสู่ Carbon Neutrality ภายในปี 2591 ตามมาตรฐาน SBTi, เพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน, และเปิดเผยข้อมูล ESG รายปีอย่างโปร่งใส ผ่านระบบตรวจสอบภายนอก (เช่น ISO, CAC)
🔹 ความเสี่ยงจากการขาดแคลนแรงงานทักษะเฉพาะและบุคลากรรุ่นใหม่
-ความเสี่ยง: อุตสาหกรรมยานยนต์จำเป็นต้องใช้แรงงานทักษะสูง เช่น วิศวกร ช่างเทคนิค และบุคลากรที่เข้าใจระบบ IoT หากเกิดการลาออกหรือตลาดแรงงานตึงตัว อาจกระทบต่อประสิทธิภาพการดำเนินงาน
+มาตรการการรับมือ: AH พัฒนาแผน succession และโครงการพัฒนาบุคลากรในระดับโรงงานร่วมกับสถานศึกษา พร้อมส่งเสริมโครงการฝึกอบรมเฉพาะทางทั้งในไทยและต่างประเทศ
โครงการในอนาคต
🔹 ขยายฐานการผลิตในต่างประเทศเพื่อรองรับตลาด OEM ระดับโลก ขยายโรงงานผลิตและร่วมทุนในต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย อินเดีย และโปรตุเกส เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและเข้าถึงตลาดรถยนต์ระดับโลกได้อย่างครอบคลุม
🔹 ลงทุนในเทคโนโลยีการผลิตและระบบ Smart Factory พัฒนาระบบการผลิตให้เป็นแบบอัตโนมัติและเชื่อมโยงด้วย IoT เพื่อลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพ และรองรับแนวโน้มการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า
🔹 ยกระดับธุรกิจเทคโนโลยีเชื่อมต่อและ IoT ในกลุ่มยานยนต์ ต่อยอดธุรกิจ IoT ด้วยการให้บริการระบบ Connected Mobility และ Telematics สำหรับรถยนต์ เพื่อรองรับความต้องการด้านข้อมูลของผู้ผลิตรถรุ่นใหม่
🔹 เพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนและตั้งเป้า Carbon Neutral ลงทุนติดตั้ง Solar Rooftop และระบบประหยัดพลังงานในโรงงาน พร้อมวางเป้าหมายสู่ Carbon Neutral ภายในปี 2591 ตามมาตรฐาน SBTi
🔹 ขยายกลุ่มลูกค้า B2B ผ่านพันธมิตรและเครือข่ายการผลิตร่วมทุน ร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกเพื่อขยายฐานลูกค้าในกลุ่มชิ้นส่วน EV และ Tier 1-2 ทั้งในเอเชียและยุโรป เสริมรายได้ระยะยาวจากตลาดต่างประเทศ
กราฟราคาหุ้น : AH

** เพื่อนๆสามารถคลิ้กที่รูปกราฟ เพื่อติดตามข้อมูล RealTime ล่าสุดของวันนี้ได้นะ
เว็บไซต์บริษัท : AH
56-1 รายงานประจำปี 2567 (Annual Report) : คลิ้กที่นี่เพื่อดาวน์โหลด
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
🔹 รายได้หลักของ AH มาจากธุรกิจใด?รายได้หลักของบริษัทมาจากการผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ ทั้งโลหะและพลาสติกให้แก่ผู้ประกอบรถยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะ OEM รายใหญ่จากญี่ปุ่น เช่น Honda, Isuzu, Mitsubishi ฯลฯ ซึ่งรายได้จากกลุ่มผลิตชิ้นส่วนยานยนต์คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 80% ของรายได้รวม
🔹 จุดเด่นที่สุดที่ทำให้บริษัทน่าสนใจคืออะไร?จุดแข็งของ AH คือความสามารถด้านวิศวกรรมการผลิตแบบครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบแม่พิมพ์ ผลิตชิ้นส่วน ปั๊มขึ้นรูป และประกอบ โดยมีฐานการผลิตในไทย เวียดนาม และจีน รวมถึงมีความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าในอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มีความต้องการต่อเนื่อง
🔹 บริษัทมีแผนการเติบโตในอนาคตอย่างไร?บริษัทมีแผนขยายตลาดส่งออกในเอเชียและยุโรป เพิ่มกำลังการผลิตโรงงานในเวียดนาม พัฒนาเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ที่รองรับรถยนต์ EV และเน้นการลงทุนด้านระบบอัตโนมัติในสายการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน รวมถึงการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG เช่น การลดของเสียและใช้พลังงานหมุนเวียนในโรงงาน
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ซื้อหุ้น AH ได้ที่ Liberator | ไม่มีขั้นต่ำ เซฟต้นทุนให้คุณตั้งแต่บาทแรก