สรุปหุ้น AH  : บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน)

 

AH  เป็นผู้นำในธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ระดับ Tier 1 ของประเทศไทย โดยดำเนินธุรกิจหลักใน 3 กลุ่ม ได้แก่ ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ เช่น ชิ้นส่วนปั๊มขึ้นรูป ชิ้นส่วนหล่อ ชิ้นส่วนพลาสติก และชิ้นส่วนตีขึ้นรูป สำหรับผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ (OEM), ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และศูนย์บริการในเครือ Honda และ MG รวมถึงธุรกิจ IoT ที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อในยานยนต์ (Connected Mobility) ผ่านเครือข่ายโรงงานมากกว่า 40 แห่งในไทย มาเลเซีย จีน และโปรตุเกส และความร่วมมือกับพันธมิตรต่างประเทศ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งในกลุ่ม ICE และ EV อย่างครบวงจร


ข้อมูลเบื้องต้น

  ตลาดหลักทรัพย์ที่จดทะเบียน: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

  อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง: สินค้าอุตสาหกรรม / ยานยนต์

  SET ESG Ratings : A

  ขนาดบริษัท (Market Cap):  4,861.34 ล้านบาท

 ข้อมูลอัพเดท ณ วันที่ 11/06/68

 

สินค้า และ บริการ

กลุ่มธุรกิจ สินค้า/บริการหลัก รายละเอียด/กลุ่มเป้าหมาย บริษัทในเครือ
ชิ้นส่วนยานยนต์ Metal, Plastic, Casting, Tooling OEM & Tier 1 เช่น Ford, Isuzu, Nissan
AHP, AHT, AHA, APR ฯลฯ
ศูนย์บริการ/ตัวแทนจำหน่าย รถยนต์ Honda, MG ผู้บริโภคทั่วไป TSR, AB
IoT Smart Factory, Connected Mobility ผู้ผลิตรถยนต์, ข้อมูลยานยนต์ AITS, IoT group

AH สร้างรายได้หลักจากการผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ให้กับผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ (OEM) ทั้งในและต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก พร้อมขยายธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และศูนย์บริการในประเทศควบคู่กัน และต่อยอดสู่ธุรกิจเทคโนโลยีเชื่อมต่อยานยนต์ (IoT & Connected Mobility) เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของอุตสาหกรรมยานยนต์ และแนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

สัดส่วนรายได้จากแต่ละธุรกิจ

กลุ่มธุรกิจ รายได้ปี 2566 (ลบ.) สัดส่วน (%)  รายได้ปี 2567 (ลบ.) สัดส่วน (%)  การเปลี่ยนแปลง
ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ 21,863.20 71.94% 18,312.60 67.82% 🟥ลดลง -16.24%
ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการ
8,513.70 28.02% 8,682.90 32.16% 🟩เพิ่มขึ้น 1.99%
ธุรกิจเทคโนโลยี IoT 1260.00% 0.04% 670.00% 0.02% 🟥ลดลง -46.83%
รวมรายได้จากการดำเนินงาน 30,389.50 100% 27,002.10 100% 🟥ลดลง -11.15%

ข้อมูลล่าสุดของปี 2567 จาก 56-1 ของบริษัท
**สามารถอัปเดตข้อมูลล่าสุดได้ คลิกที่นี่  Liberator -เทรดหุ้นไทย หุ้น US - Apps on Google Play

ความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน

🔹 มีสายผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ครบวงจร รองรับความต้องการ OEM ทั่วโลก
+AH ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์หลากหลายประเภท ทั้งเหล็กหล่อ เหล็กปั๊ม ขึ้นรูป พลาสติก ชิ้นส่วนหล่อ เครื่องมือแม่พิมพ์ และระบบประกอบ ทำให้สามารถรองรับคำสั่งซื้อจากผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ (OEM) ได้ครอบคลุม ไม่พึ่งพิงผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่งมากเกินไป

🔹 มีฐานลูกค้าระดับโลกในกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วน Tier 1–2
+ลูกค้าหลักของ AH ได้แก่ Ford, Isuzu, Nissan, Toyota, Mazda, Renault, Stellantis, Continental ฯลฯ ที่มีการสั่งซื้อแบบต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมีรายได้ recurring และสามารถขยายความร่วมมือในระยะยาวได้

🔹 เครือข่ายโรงงานในหลายประเทศ ช่วยกระจายความเสี่ยงและเข้าถึงตลาดท้องถิ่น
+AH มีโรงงานผลิตมากกว่า 40 แห่งในไทย มาเลเซีย จีน โปรตุเกส และอินเดีย ทำให้สามารถผลิตและส่งมอบสินค้าได้ใกล้ลูกค้า ลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับภูมิภาคและโลก

🔹 มีพันธมิตรธุรกิจระดับโลก สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและขยายตลาด
+AH มีการร่วมทุนกับพันธมิตรชั้นนำ เช่น Bethel (จีน), Sakthi (อินเดีย), Kautex Textron (เยอรมนี) ซึ่งเสริมความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ รวมถึงช่วยเปิดตลาดใหม่ในต่างประเทศ

🔹 เน้นประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารต้นทุนอย่างเข้มงวด
+บริษัทมีกระบวนการผลิตที่ผ่านมาตรฐานสากล (IATF 16949, ISO 14001) และใช้ระบบบริหารจัดการคุณภาพ-พลังงาน-สิ่งแวดล้อม เพื่อลดของเสีย ลดต้นทุน และเพิ่ม margin ได้ดี แม้ในสภาวะอุตสาหกรรมผันผวน

 

ความเสี่ยงของธุรกิจและมาตราการการรับมือ

🔹 ความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากอุตสาหกรรมยานยนต์แบบดั้งเดิม (ICE)

-ความเสี่ยง: การเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และแนวโน้มลดใช้เครื่องยนต์สันดาป อาจทำให้ชิ้นส่วนแบบดั้งเดิมที่ AH ผลิตอยู่ถูกลดบทบาทลง

+มาตรการการรับมือ: บริษัทลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตใหม่ รองรับชิ้นส่วนสำหรับ EV รวมถึงขยายธุรกิจ IoT และระบบ Connected Mobility เพื่อเพิ่มรายได้จากกลุ่มเทคโนโลยีใหม่ที่เติบโตเร็ว

🔹 ความเสี่ยงจากความผันผวนด้านต้นทุนวัตถุดิบและพลังงาน

-ความเสี่ยง: ราคาวัตถุดิบ เช่น เหล็ก อลูมิเนียม หรือพลังงาน (ไฟฟ้า ก๊าซ) ที่ผันผวนในตลาดโลก อาจส่งผลต่อ margin และต้นทุนการผลิตของบริษัท

+มาตรการการรับมือ: AH ปรับโครงสร้างการจัดซื้อแบบกระจายแหล่ง พร้อมใช้นโยบาย Hedging ในบางกรณี และลงทุนในระบบผลิตพลังงานสะอาด เช่น Solar Rooftop และการใช้พลังงานหมุนเวียนในโรงงาน

🔹 ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่ (OEM)

-ความเสี่ยง: ลูกค้ารายใหญ่บางรายมีอำนาจต่อรองสูง หากลดคำสั่งซื้อหรือย้ายฐานการผลิต อาจกระทบรายได้อย่างมีนัย

+มาตรการการรับมือ: บริษัทขยายฐานลูกค้าไปยังหลายประเทศ (เช่น มาเลเซีย โปรตุเกส อินเดีย) ผ่าน JV และบริษัทย่อย พร้อมเพิ่มกลุ่มลูกค้าใน Tier 1–2 และพัฒนาโมเดล B2B ที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น

🔹 ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและแรงกดดันด้าน ESG

-ความเสี่ยง: มาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้นทั้งในไทยและประเทศคู่ค้า เช่น EU, จีน, อาจทำให้เกิดต้นทุน compliance เพิ่มขึ้น รวมถึงความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์หากไม่ปฏิบัติตาม

+มาตรการการรับมือ: บริษัทวางเป้าหมายสู่ Carbon Neutrality ภายในปี 2591 ตามมาตรฐาน SBTi, เพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน, และเปิดเผยข้อมูล ESG รายปีอย่างโปร่งใส ผ่านระบบตรวจสอบภายนอก (เช่น ISO, CAC)

🔹 ความเสี่ยงจากการขาดแคลนแรงงานทักษะเฉพาะและบุคลากรรุ่นใหม่

-ความเสี่ยง: อุตสาหกรรมยานยนต์จำเป็นต้องใช้แรงงานทักษะสูง เช่น วิศวกร ช่างเทคนิค และบุคลากรที่เข้าใจระบบ IoT หากเกิดการลาออกหรือตลาดแรงงานตึงตัว อาจกระทบต่อประสิทธิภาพการดำเนินงาน

+มาตรการการรับมือ: AH พัฒนาแผน succession และโครงการพัฒนาบุคลากรในระดับโรงงานร่วมกับสถานศึกษา พร้อมส่งเสริมโครงการฝึกอบรมเฉพาะทางทั้งในไทยและต่างประเทศ

 

โครงการในอนาคต

🔹 ขยายฐานการผลิตในต่างประเทศเพื่อรองรับตลาด OEM ระดับโลก ขยายโรงงานผลิตและร่วมทุนในต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย อินเดีย และโปรตุเกส เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและเข้าถึงตลาดรถยนต์ระดับโลกได้อย่างครอบคลุม

🔹 ลงทุนในเทคโนโลยีการผลิตและระบบ Smart Factory พัฒนาระบบการผลิตให้เป็นแบบอัตโนมัติและเชื่อมโยงด้วย IoT เพื่อลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพ และรองรับแนวโน้มการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้

🔹 ยกระดับธุรกิจเทคโนโลยีเชื่อมต่อและ IoT ในกลุ่มยานยนต์ ต่อยอดธุรกิจ IoT ด้วยการให้บริการระบบ Connected Mobility และ Telematics สำหรับรถยนต์ เพื่อรองรับความต้องการด้านข้อมูลของผู้ผลิตรถรุ่นใหม่

🔹 เพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนและตั้งเป้า Carbon Neutral ลงทุนติดตั้ง Solar Rooftop และระบบประหยัดพลังงานในโรงงาน พร้อมวางเป้าหมายสู่ Carbon Neutral ภายในปี 2591 ตามมาตรฐาน SBTi

🔹 ขยายกลุ่มลูกค้า B2B ผ่านพันธมิตรและเครือข่ายการผลิตร่วมทุน ร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกเพื่อขยายฐานลูกค้าในกลุ่มชิ้นส่วน EV และ Tier 1-2 ทั้งในเอเชียและยุโรป เสริมรายได้ระยะยาวจากตลาดต่างประเทศ

 

กราฟราคาหุ้น : AH


** เพื่อนๆสามารถคลิ้กที่รูปกราฟ เพื่อติดตามข้อมูล RealTime ล่าสุดของวันนี้ได้นะ 

เว็บไซต์บริษัท :  AH

56-1 รายงานประจำปี 2567 (Annual Report) : คลิ้กที่นี่เพื่อดาวน์โหลด

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

🔹 รายได้หลักของ AH มาจากธุรกิจใด?รายได้หลักของบริษัทมาจากการผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ ทั้งโลหะและพลาสติกให้แก่ผู้ประกอบรถยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะ OEM รายใหญ่จากญี่ปุ่น เช่น Honda, Isuzu, Mitsubishi ฯลฯ ซึ่งรายได้จากกลุ่มผลิตชิ้นส่วนยานยนต์คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 80% ของรายได้รวม

🔹 จุดเด่นที่สุดที่ทำให้บริษัทน่าสนใจคืออะไร?จุดแข็งของ AH คือความสามารถด้านวิศวกรรมการผลิตแบบครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบแม่พิมพ์ ผลิตชิ้นส่วน ปั๊มขึ้นรูป และประกอบ โดยมีฐานการผลิตในไทย เวียดนาม และจีน รวมถึงมีความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าในอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มีความต้องการต่อเนื่อง

🔹 บริษัทมีแผนการเติบโตในอนาคตอย่างไร?บริษัทมีแผนขยายตลาดส่งออกในเอเชียและยุโรป เพิ่มกำลังการผลิตโรงงานในเวียดนาม พัฒนาเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ที่รองรับรถยนต์ EV และเน้นการลงทุนด้านระบบอัตโนมัติในสายการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน รวมถึงการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG เช่น การลดของเสียและใช้พลังงานหมุนเวียนในโรงงาน

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

 
ซื้อหุ้น AH  ได้ที่ Liberator | ไม่มีขั้นต่ำ เซฟต้นทุนให้คุณตั้งแต่บาทแรก