จากคนดูซีรีส์ สู่ คนดู “ธุรกิจ Netflix”

คุณอาจนั่งดูซีรีส์ทุกคืนจนลืมเวลา แต่แอดเดาว่าหลายคนไม่เคยหยุดคิดเลยว่า บริษัทที่อยู่เบื้องหลังแอปสีแดงนี้หาเงินยังไงกันแน่ แอดเองก็เคยดูแบบเพลิน ๆ ไม่ได้สนใจตัวเลขอะไร จนวันหนึ่งลองเปิดงบจริง ๆ แล้วภาพมันชัดขึ้นแบบคนละเรื่อง

Netflix ขยายจากธุรกิจเช่าดีวีดีจนกลายเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิงระดับโลก และตอนนี้ไม่ได้หยุดอยู่ที่การเก็บค่าสมาชิกอีกต่อไป มีทั้งแพ็กเกจโฆษณา เกม คอนเทนต์ไลฟ์สด กีฬา และโปรเจกต์อย่าง Netflix House ที่ทำเอาแฟนซีรีส์เดินยิ้มกันเป็นแถว

ฝั่งผู้ใช้นึกถึงคอนเทนต์ แต่ฝั่งนักลงทุนเห็นเป็นเครื่องจักรตัวใหญ่ที่หมุนเงินจากผู้ใช้กว่า 300 mn บัญชีในเกือบร้อยประเทศ แอดเลยอยากชวนคุณลองสลับโหมดจากคนดูซีรีส์ มาเป็นคนดู “ธุรกิจจริง ๆ” บ้าง แล้วค่อยว่า ถ้าอยากถือหุ้น NFLX ต้องสังเกตตัวเลขแบบไหนกัน

 

Netflix คือใคร ทำธุรกิจอะไร?

Netflix, Inc. คือบริษัทสื่อและความบันเทิงสัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งปี 1997 จากธุรกิจเช่าดีวีดีทางไปรษณีย์ ก่อนจะ pivot กลายเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิงในปี 2007 และค่อย ๆ ขยายไปทั่วโลก

ปัจจุบัน Netflix เป็นหนึ่งในบริการสตรีมมิงที่มีคนสมัครสมาชิกมากที่สุดในโลก โดยมี paid memberships มากกว่า 300 ล้านบัญชี ในกว่า 190 ประเทศ ดูซีรีส์ หนัง และเกมหลายภาษา หลายแนว ผ่านอินเทอร์เน็ตบนทุกอุปกรณ์ ตั้งแต่มือถือไปถึงทีวีจอใหญ่

 

ธุรกิจของ Netflix ทำเงินอย่างไร?

เรามองธุรกิจ Netflix ออกเป็น “4 เสาหลักในการทำรายได้”

2.1 ค่าสมาชิก (Subscription) – เสาหลักของบริษัท

รายได้หลักของ Netflix มาจาก ค่าสมาชิกรายเดือน ของผู้ใช้งานทั่วโลก

คิดเป็นสูตรง่าย ๆ ได้เลยว่า

รายได้จากสตรีมมิง ≈ จำนวนสมาชิกจ่ายเงิน (Paid Memberships) × รายได้เฉลี่ยต่อสมาชิก (ARPU หรือ ARM)

+ Netflix แบ่งรายได้ตามภูมิภาคในรายงานประจำปี (10-K / Annual Report) เช่น

+ US & Canada

+ EMEA (ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา)

+ LATAM

+ APAC (เอเชียแปซิฟิก)

สิ่งที่บริษัทโฟกัสมาตลอดหลายปีคือ

 

  1. ขยายจำนวนสมาชิก (Volume Growth)
    ลงทุนคอนเทนต์ท้องถิ่นในหลายประเทศ
    ทำ Subtitle / Dub ให้ครบหลายภาษาปรับแพ็กเกจให้เข้ากับกำลังจ่ายของแต่ละประเทศ
  2. เพิ่มรายได้ต่อสมาชิก (Value per user)
    ปรับราคาบางประเทศขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
    เสนอแพ็กเกจที่แตกต่าง เช่น แผนครอบครัว / ความละเอียดภาพสูง
    แปลว่า Netflix หาเงินจาก “คนเดิม” ให้ได้มากขึ้น และหาคน “ใหม่ ๆ” เข้ามาเพิ่มตลอดเวลา

 

 

2.2 รายได้จากโฆษณา (Advertising) – เครื่องยนต์ใหม่ที่กำลังแรง

เดิมที Netflix ขายภาพจำว่า “ไม่มีโฆษณา ดูยาว ๆ ให้เต็มอรรถรส”
แต่ในวันที่การเติบโตของจำนวนสมาชิกเริ่มชะลอลง บริษัทก็เปิดเกมใหม่:

แพ็กเกจราคาย่อมเยาที่มีโฆษณา (Ad-supported tier)

โมเดลนี้ทำให้ Netflix

ดึงลูกค้าที่ “ไม่อยากจ่ายแพง” เข้ามาเพิ่ม

สร้างรายได้จากฝั่ง Advertiser ที่อยากยิงโฆษณาหากลุ่มผู้ชมคุณภาพสูง

Netflix เริ่มพัฒนาแพลตฟอร์มโฆษณาของตัวเอง และดึงพาร์ตเนอร์ด้าน Ad Tech เข้ามาช่วย มุมมองจากฝั่งบริษัทคือ “รายได้จากโฆษณา” จะเป็นขาเติบโตสำคัญในอีกหลายปีข้างหน้า

จากมุมมองนักลงทุน นี่คือ “Upside ใหม่” นอกเหนือจากรายได้สมาชิกปกติ

 

2.3 คอนเทนต์ & ประสบการณ์ต่อยอด (Live, Sports, Netflix House ฯลฯ)

Netflix เริ่มเดินเกมมากกว่าการเป็น “แค่แอปดูซีรีส์”

  1. Live Content / Sports / Events
    มีดีลรายการสด กีฬา หรืออีเวนต์บางส่วน เพื่อดึงคนให้เข้ามาดูแบบเรียลไทม์
  2. Netflix House / Experiences
    โปรเจกต์สร้างพื้นที่ออฟไลน์ ให้แฟน ๆ เข้าไปสัมผัสโลกของซีรีส์/หนังที่ชอบ
    เช่น โซนธีม Squid Game หรือ Stranger Things แล้วสร้างรายได้จาก
    ค่าเข้าชม, ขายของที่ระลึก, สปอนเซอร์ / แบรนด์พาร์ตเนอร์

 

2.4 เกม (Games) – เพิ่มเวลาอยู่บนแพลตฟอร์ม (Engagement Engine)

Netflix ลงทุนในเกมมือถือและเกมที่เชื่อมโยงกับซีรีส์/หนังของตัวเอง

เป้าหมายหลักตอนนี้ยังไม่ใช่ “ทำกำไรจากขายเกม” โดยตรง
แต่คือ

เพิ่มเวลาใช้งานของสมาชิก (ดูจบซีรีส์แล้วก็ไปเล่นเกมต่อ)

ทำให้คนรู้สึกว่า “จ่ายค่าสมาชิกแล้วคุ้ม” เพราะได้ทั้งซีรีส์ หนัง และเกม

ในรายงาน 10-K บริษัทระบุชัดว่า บริการครอบคลุมทั้ง TV series, films และ games เป็นแพ็กเกจบันเทิงครบชุดในหนึ่ง Subscription

 

3. ถ้าจะลงทุน NFLX ต้องดูตัวเลขอะไร?

แอดแบ่งเป็นสามกลุ่มใหญ่หลักๆ

กลุ่ม 1: รายได้และการเติบโต

1) Total Revenue
ดูทั้งเทรนด์และความเร็วของการโต

2) Paid Memberships
ถ้าสมาชิกยังเพิ่ม แม้ไม่เร็ว ก็ยังดี

3) ARPU
ตัวนี้แอดเช็กตลอด ถ้า ARPU โตได้ แปลว่าสามารถดันมูลค่าต่อสมาชิกได้จริง และพวกแผนโฆษณาก็ช่วยได้เยอะ

 

กลุ่ม 2: กำไรและเงินสด

4) Operating Margin
ถ้า Margin ดีขึ้น แปลว่าใช้ต้นทุนคอนเทนต์ได้คุ้มขึ้น ถ้าลดลงแรง ก็ต้องดูว่าบริษัทเร่งลงทุนอะไรอยู่

5) Net Income & EPS
EPS โตจากกำไร หรือจากการซื้อหุ้นคืนก็ต้องแยกกันดู แอดเคยเจอหลายบริษัทที่ EPS โตเพราะซื้อหุ้นคืนอย่างเดียว ซึ่งต้องดูให้ชัด

6) Free Cash Flow
FCF คือเงินสดจริง หลังยุคที่ Netflix ใช้เงินหนักกับคอนเทนต์ ตอนนี้ FCF เริ่มดีขึ้น และแอดว่าเป็นตัววัดสุขภาพบริษัทที่สำคัญมาก

 

กลุ่ม 3: ความเสี่ยงและความแพงของหุ้น

7) Content Obligations & Debt
ภาระคอนเทนต์มหาศาล ต้องดูเทียบกับรายได้ FCF และหนี้สุทธิ ถ้าฐานเงินสดไม่โตตาม อาจกระทบความยืดหยุ่นของบริษัทในอนาคตได้

8) คู่แข่ง
Disney+, Prime Video, Apple TV+, YouTube, TikTok แอดคิดเสมอว่าคู่แข่งพวกนี้แย่งเวลา “หน้าจอ” จากผู้ชม Netflix ได้ตลอด

9) Valuation
หุ้นระดับ Growth แบบนี้ ตลาดให้น้ำหนักความคาดหวังเยอะมาก ต้องดูตัวคูณ P/E, Forward P/E, P/FCF, EV/EBITDA แล้วถามตัวเองว่าอนาคตที่นักวิเคราะห์ประเมินมันดูสมจริงแค่ไหน

 

4. Framework สั้น ๆ ที่ผมเช็กเวลางบออก

Revenue โตไหม
สมาชิกกับ ARPU ยังดีไหม
รายได้โฆษณาก้าวหน้าแค่ไหน
Operating Margin ถูกบีบหรือดีขึ้น
EPS วิ่งไปทิศทางเดียวกับกำไรหรือเปล่า
FCF เป็นบวกต่อเนื่องไหม
ภาระคอนเทนต์ดูเสี่ยงหรือยังไหว
Valuation แพงไปหรือพอรับได้

 

===================

ที่มา (References)

https://ir.netflix.net/financials/quarterly-earnings/default.aspx

https://ir.netflix.net/ir-overview/profile/default.aspx

==================================

Disclaimer:
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่นักลงทุนเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
นักลงทุนควรศึกษาลักษณะสินค้าและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด
ก่อนตัดสินใจ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดพิจารณาให้รอบคอบ
==================================

🌎 🗽 ขยายโอกาสการลงทุนในบริษัทศักยภาพทั่วโลกไปกับ Liberator เพียงมีบัญชีหุ้นสหรัฐอเมริกากับค่าคอมสุดคุ้ม และ สิทธิประโยชน์มากมาย กิจกรรมคอมมูนิตี้หลากหลาย เข้าใช้งานคลังความรู้ออนไลน์ เปิดบัญชีง่ายๆ
 
💡 รู้หรือไม่ : ไม่เพียงแต่หุ้นสหรัฐอเมริกาแต่เพื่อนๆยังสามารถลงทุนในบริษัทจากประเทศอื่นๆที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ รวมแล้วกว่า 8,000 ตัว ได้เช่นกัน

เปิดบัญชีหุ้นสหรัฐอเมริกากับ Liberator 🇺🇸
https://liberator.onelink.me/xlnX/B-USFincode2025

✅
 หากมีบัญชีกับ Liberator แล้ว
1) Login เข้าแอป
2) เลือกเมนู "You" ➡️ เลือก "Open Account US Stock" ทำตามขั้นตอนง่ายๆเพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้น
.
✅ ไม่เคยมีบัญชีกับ Liberator มาก่อน
2) สมัครเปิดบัญชี
3) มีบัญชีแล้ว ➡️ Login เข้าแอป ➡️ เลือกเมนู "You" ➡️ เลือก "Open Account US Stock" ทำตามขั้นตอนง่ายๆเพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้น
.
อ่านคู่มือ :