ถ้าพูดถึงนักลงทุนที่คนทั้งโลกยกย่องว่า “คิดแบบระยะยาวที่สุด” คงไม่มีใครเหนือกว่า Warren Buffett
ชายผู้เปลี่ยนบริษัททอผ้าเล็ก ๆ ให้กลายเป็นอาณาจักรการเงินระดับโลกชื่อว่า Berkshire Hathaway (BRK)
และทำให้คำว่า “ซื้อแล้วถือไปตลอดชีวิต” กลายเป็นปรัชญาการลงทุนที่คนทั่วโลกพูดถึง

 

จุดเริ่มต้นของ Berkshire Hathaway

ย้อนกลับไปในปี 1960s “Berkshire Hathaway” ยังเป็นแค่บริษัททอผ้าเก่าแก่ในรัฐ Massachusetts
Warren Buffett เห็นว่าหุ้นถูกมากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ในงบ (แนวทาง Value Investing ของ Benjamin Graham)
เขาเลยเริ่มทยอยซื้อหุ้นเข้าพอร์ต จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในปี 1965

แต่แทนที่ธุรกิจจะฟื้นกลับมาได้ตามที่คาด สิ่งทอกลับโดนคลื่นแรงจากต่างประเทศที่ผลิตถูกกว่า
Buffett ตัดสินใจ “เลิกทอผ้า” แล้วเปลี่ยน Berkshire ให้เป็น Holding Company
เพื่อใช้เงินสดในมือไปลงทุนใน “ธุรกิจที่เข้าใจและมีอนาคต”

การ pivot ครั้งนั้นเปลี่ยนทิศทางของบริษัทตลอดกาล 
จากธุรกิจผ้าธรรมดา  สู่อาณาจักรการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก

 

อาณาจักรธุรกิจภายใต้ Berkshire Hathaway

วันนี้ Berkshire ไม่ได้เป็นเพียงบริษัทเดียว แต่เป็น “เครือกิจการกว่า 60 บริษัท”
และถือหุ้นในบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอีกหลายแห่ง

 

(A) ธุรกิจที่ Berkshire เป็นเจ้าของเต็มตัว

Buffett ชอบซื้อธุรกิจดี ๆ แบบ “ทั้งบริษัท” มากกว่าซื้อหุ้นในตลาด เพราะควบคุมทิศทางได้เต็มที่
ธุรกิจเหล่านี้มีรายได้สม่ำเสมอ กระแสเงินสดแน่น และอยู่ในอุตสาหกรรมที่เข้าใจง่าย

ตัวอย่างเช่น

+ GEICO – บริษัทประกันภัยรถยนต์อันดับต้น ๆ ของสหรัฐ

+ BNSF Railway – ระบบขนส่งรถไฟที่ถือเป็น “เส้นเลือด” ของเศรษฐกิจอเมริกา

+ Berkshire Hathaway Energy (BHE) – ธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ครอบคลุมไฟฟ้า น้ำ และพลังงานหมุนเวียน

+ See’s Candies, Dairy Queen, Duracell, Precision Castparts, Lubrizol ฯลฯ

ธุรกิจเหล่านี้สร้างรายได้รวมกันกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งบริษัท
และที่สำคัญคือ มีความสามารถในการเติบโตแม้ Buffett ไม่ต้องยุ่งทุกวัน

 

(B) ธุรกิจที่ Berkshire ถือหุ้นบางส่วน (พอร์ตลงทุนจดทะเบียน)

อีกครึ่งของ Berkshire คือพอร์ตหุ้นในตลาด ซึ่ง Buffett และ Charlie Munger (คู่หูตลอดกาล)
เลือกลงทุนแบบ “เป็นเจ้าของระยะยาว”

หุ้นใหญ่ในพอร์ตปัจจุบัน เช่น

+ Apple – สัดส่วนกว่า 40–45% ของพอร์ตทั้งหมด

+ Bank of America, American Express, Coca-Cola, Chevron, Occidental Petroleum

Buffett มอง Apple ว่า “ไม่ใช่แค่บริษัทเทคโนโลยี แต่เป็นแบรนด์ที่คนผูกพันที่สุดในโลก”
และเขาเคยกล่าวว่า “หากต้องเลือกถือกิจการเดียวในโลก ผมเลือก Apple”

 

ปรัชญา “Holding Forever” ของ Buffett

Buffett ไม่ใช่แค่นักลงทุนที่เก่งในการ “ซื้อ” แต่โดดเด่นที่สุดใน “การไม่ขาย”

เขามักพูดว่า

“Our favorite holding period is forever.”
— ระยะเวลาการถือครองที่เราชอบที่สุดคือ “ตลอดไป”

เหตุผลคือ Buffett เชื่อว่า การลงทุนที่ดีคือการเป็นเจ้าของธุรกิจดี ๆ ไปนาน ๆ
แทนที่จะพยายามเก็งกำไรจากการขึ้นลงของราคา

เขามองว่าธุรกิจที่ยอดเยี่ยมจะ “สร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นเอง” เมื่อเวลาผ่านไป
เหมือนต้นไม้ที่ออกดอกผลมากขึ้นทุกปี โดยไม่ต้องขุดมาขายบ่อย ๆ

 

เคล็ดลับของ Buffett ที่ซ่อนอยู่ใน Berkshire

  1. เข้าใจธุรกิจจริงก่อนลงทุน – เขาจะไม่ลงทุนในสิ่งที่ไม่เข้าใจอย่างลึกซึ้ง

  2. เลือกผู้บริหารที่เก่งและซื่อสัตย์ – เพราะ Berkshire ถือกิจการจำนวนมาก แต่บริหารด้วย “ความเชื่อใจ”

  3. ไม่พยายามคาดเดาตลาด – Buffett บอกเสมอว่า “ตลาดในระยะสั้นคือเครื่องลงคะแนน แต่ในระยะยาวคือเครื่องชั่งน้ำหนัก”

  4. ถือเงินสดรอจังหวะใหญ่ – Berkshire มักสะสมเงินสดระดับแสนล้านดอลลาร์ เพื่อพร้อมเข้าซื้อเมื่อโอกาสมาถึง

  5. สร้างระบบที่อยู่ได้แม้ไม่มี Buffett – เขาวางแผนผู้สืบทอดไว้อย่างละเอียด โดยเฉพาะ Greg Abel ที่จะรับไม้ต่อในอนาคต

 

Berkshire วันนี้: อาณาจักร 800,000 ล้านดอลลาร์

ณ ปี 2025 มูลค่าตลาดของ Berkshire อยู่ราว $800–850 พันล้านดอลลาร์
ใกล้เคียงบริษัทระดับโลกอย่าง Meta หรือ Tesla และเป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่ไม่มีการแตกหุ้นเลยตั้งแต่ก่อตั้ง

หุ้น Berkshire Class A ราคาต่อหุ้นสูงกว่า $700,000
แสดงถึงความตั้งใจของ Buffett ที่อยากให้ผู้ถือหุ้นคิดแบบ “เจ้าของกิจการ” ไม่ใช่เทรดเดอร์

Berkshire Hathaway จึงไม่ใช่แค่บริษัทลงทุน
แต่คือ ตัวอย่างของความอดทน ความเรียบง่าย และการมองไกลกว่าคนส่วนใหญ่ทั้งโลก
และทั้งหมดนี้เกิดจากปรัชญาที่เรียบง่ายที่สุดของ Buffett —
“Hold Forever.”

 

===================

ที่มา (References)

https://www.berkshirehathaway.com/

==================================

Disclaimer:
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่นักลงทุนเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
นักลงทุนควรศึกษาลักษณะสินค้าและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด
ก่อนตัดสินใจ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดพิจารณาให้รอบคอบ
==================================

🌎 🗽 ขยายโอกาสการลงทุนในบริษัทศักยภาพทั่วโลกไปกับ Liberator เพียงมีบัญชีหุ้นสหรัฐอเมริกากับค่าคอมสุดคุ้ม และ สิทธิประโยชน์มากมาย กิจกรรมคอมมูนิตี้หลากหลาย เข้าใช้งานคลังความรู้ออนไลน์ เปิดบัญชีง่ายๆ
 
💡 รู้หรือไม่ : ไม่เพียงแต่หุ้นสหรัฐอเมริกาแต่เพื่อนๆยังสามารถลงทุนในบริษัทจากประเทศอื่นๆที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ รวมแล้วกว่า 8,000 ตัว ได้เช่นกัน

เปิดบัญชีหุ้นสหรัฐอเมริกากับ Liberator 🇺🇸
https://liberator.onelink.me/xlnX/B-USFincode2025

✅
 หากมีบัญชีกับ Liberator แล้ว
1) Login เข้าแอป
2) เลือกเมนู "You" ➡️ เลือก "Open Account US Stock" ทำตามขั้นตอนง่ายๆเพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้น
.
✅ ไม่เคยมีบัญชีกับ Liberator มาก่อน
2) สมัครเปิดบัญชี
3) มีบัญชีแล้ว ➡️ Login เข้าแอป ➡️ เลือกเมนู "You" ➡️ เลือก "Open Account US Stock" ทำตามขั้นตอนง่ายๆเพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้น
.
อ่านคู่มือ :