อยากลงทุนหุ้นยา ต้องรู้จัก ABBV

หุ้น ABBV คือใคร ทำธุรกิจอะไร
AbbVie Inc. (NYSE: ABBV) คือบริษัท Biopharmaceutical จากสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งปี 2013 หลังแยกตัวจาก Abbott Laboratories เพื่อโฟกัสเฉพาะ “ยาที่มีมูลค่าสูงและซับซ้อน”
ธุรกิจหลักของ ABBV ครอบคลุม 4 กลุ่มใหญ่:
-
Immunology (ภูมิคุ้มกัน)
+ ยา Humira (โรคข้ออักเสบ, สะเก็ดเงิน)
+Skyrizi และ Rinvoq คือทายาทรุ่นใหม่ที่กำลังเติบโตแทน -
Neuroscience (ระบบประสาท)
+ Vraylar, Qulipta, Ubrelvy สำหรับรักษาไมเกรนและโรคซึมเศร้า
-
Oncology (มะเร็ง)
+ Imbruvica, Venclexta สำหรับมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและเม็ดเลือด -
Aesthetics & Eye Care (ความงามและสายตา)
+ เจ้าของแบรนด์ Botox, Juvederm และธุรกิจความงามจากการซื้อกิจการ Allergan
จุดเปลี่ยนของ ABBV: หลัง Humira หมดสิทธิบัตร
ตลอดเกือบทศวรรษที่ผ่านมา Humira คือยาขายดีที่สุดในโลก สร้างรายได้มากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี
แต่ปี 2023 สิทธิบัตรหมดลง ทำให้คู่แข่งผลิต Biosimilar ได้ รายได้จึงเริ่มลดลงกว่า 30%
อย่างไรก็ตาม AbbVie ไม่ได้ตั้งรับเฉย ๆ
บริษัทใช้ช่วงพีคของ Humira ลงทุนพัฒนา Skyrizi และ Rinvoq ซึ่งกำลังขึ้นแทนที่ได้อย่างรวดเร็ว
ปี 2024 รายได้รวมของสองยานี้พุ่งกว่า 13,000 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะโตถึง 31,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2027
จุดแข็งของ ABBV
-
พลังของ R&D:
ทุ่มงบวิจัยกว่า 7 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ทำให้มี Pipeline ยากว่า 90 ตัวที่อยู่ระหว่างการทดลอง -
โมเดลธุรกิจที่มี Diversification:
นอกจากยาโรคเรื้อรัง ยังมี “Aesthetics” ที่ทำกำไรสูงและไม่พึ่งการอนุมัติจาก FDA มากนัก -
แบรนด์แข็งระดับโลก:
Botox และ Juvederm คือสินค้าระดับ Premium ที่ขยายตลาดได้ทั่วโลก -
ปันผลมั่นคง:
AbbVie เป็นหนึ่งในหุ้น “Dividend Aristocrats” ที่เพิ่มปันผลทุกปีตั้งแต่แยกตัวจาก Abbott
ความท้าทายและความเสี่ยงของ ABBV
-
รายได้จาก Humira ยังหดตัวในช่วงเปลี่ยนผ่าน
-
การแข่งขันจากยาชีววัตถุ (Biosimilar) ในตลาดสหรัฐ
-
แรงกดดันจากนโยบายลดราคายา (Medicare Drug Price Negotiation)
-
ภาระหนี้จากการซื้อกิจการ Allergan ที่ยังต้องบริหารให้คุ้มค่า
โอกาสและแนวโน้มระยะยาว
Skyrizi และ Rinvoq คือแกนหลักของอนาคต
การเติบโตเฉลี่ยปีละ 25–30% จะเป็นตัวชี้ว่า ABBV เดินแผน “Post-Humira” ได้สำเร็จหรือไม่
ธุรกิจ Aesthetics ยังขยายได้อีกมากในเอเชีย
โดยเฉพาะ Botox ที่มีฐานลูกค้าและแบรนด์เข้มแข็งระดับโลก
การพัฒนา Pipeline ด้าน Neuroscience เช่น ยาแก้ไมเกรนรุ่นใหม่
ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นต่อวัฏจักรยาหลัก
นักลงทุนควรดูตัวเลขไหน
-
ยอดขาย Skyrizi และ Rinvoq
ถ้าโต >25% ต่อปี = บริษัทเปลี่ยนผ่านได้จริง
-
สัดส่วนรายได้จาก Humira
ถ้าลดลง <20% ของรายได้รวม = พอร์ตเริ่มสมดุล
-
Gross Margin > 70%
แปลว่าประสิทธิภาพยังดีแม้เปลี่ยนโครงสร้างผลิตภัณฑ์
-
Free Cash Flow (FCF)
ใช้ดูความสามารถในการจ่ายปันผลระยะยาว
ทำไม ABBV ยังน่าสนใจสำหรับนักลงทุน
AbbVie เป็นกรณีศึกษาที่ดีของ “บริษัทที่เปลี่ยนผ่านจากการพึ่งรายได้ก้อนเดียว ไปสู่พอร์ตที่ยั่งยืนกว่า”
แม้กำลังเผชิญแรงกดดัน แต่มีทั้ง Pipeline ใหม่, Cash Flow แข็งแกร่ง, และธุรกิจความงามที่ยังเติบโต
จุดเด่น: หุ้นปันผลสูง (Dividend Yield ราว 4%) และโมเดลธุรกิจที่อยู่ในกลุ่ม Defensive Healthcare
จุดต้องระวัง: การเปลี่ยนผ่านต้องทำให้เร็วพอ ก่อนที่รายได้เก่าจะหายไปมากกว่านี้
===================
ที่มา (References)
https://investors.abbvie.com/financial-releases
==================================
Disclaimer:
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่นักลงทุนเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
นักลงทุนควรศึกษาลักษณะสินค้าและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด
ก่อนตัดสินใจ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดพิจารณาให้รอบคอบ
==================================
