ความตึงเครียดของสงครามจริง และการค้า เริ่มผ่อนคลาย หน้าฉากลงทุนกำลังย้ายจาก Risk off เป็น Risk on แล้วนะ



ข่าวเศรษฐกิจช่วงนี้ที่ควรรู้

1.กนง.

ตรึงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75
% และพร้อมลดเพิ่มหากเศรษฐกิจแผ่วกว่าคาด → เศรษฐกิจยังคงเปราะบาง จงใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท

2.ตลาดหุ้นไทย

เกือบหลุด 1050 แต่
ฟื้นท้ายเดือนหลัง อิสราเอล-อิหร่าน บรรลุข้อตกลงหยุดยิง ทว่าการเมืองไทยทำให้แผ่วช่วงท้าย → หุ้นนอกมีแนวโน้มฟื้นต่อเนื่อง ส่วนหุ้นไทยจะฟื้น แต่จะช้ากว่า

3.เงินเฟ้อทั่วไป

ติดลบ -0.57% ในเดือน พ.ค. ติดลบต่อเนื่อง 2 เดือนติดๆ จากต้นทุนพลังงาน ผักสด ลดลง → สะท้อนซื้อของผู้บริโภคที่เบาลงต่อเนื่อง ซึ่งเป็นอาการของเงินฝืด(เก็บมากกว่าใช้สอย)

4.สงครามการค้า

สหรัฐ-จีน ลงนามข้อตกลง
Framework เพื่อส่งออกแร่หายาก ส่วนสินค้าอื่นๆจะสรุปใน 30 วัน ของไทยเส้นตาย 9 ก.ค. ความกังวล peak ไปแล้ว สินทรัพย์ปลอดภัยเริ่มหมดเสน่ห์ สินทรัพย์เสี่ยงน่าสนใจมากขึ้น

5.ค่าเงินบาท

แข็งค่าสู่ 32.50 บาท เหตุเพราะค่าเงินดอลล่าร์พลิกอ่อนค่าจากแรงคาดหวังว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย ผนวกความตึงเครียด ตอ.กลาง เริ่มผ่อนคลาย
→ ไม่ได้แปลว่าเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งนะ แต่จะเป็นโอกาสของการนำเข้าวัตถุดิบในราคาถูกลง

ส่องสินทรัพย์ช่วงนี้ มีอะไรน่าลงทุนบ้าง !?


เงินฝาก

สถานการณ์ยังคงไม่เป็นคุณต่อคนฝากเงิน ควรหาที่พักเงิน เช่น กองทุน Money Market Fund, บัญชีเงินฝาก FCD ยิ่งเงินบาทแข็งจัดตอนนี้ ยิ่งได้เปรียบในการเข้าฝาก

ทองคำ

ความกังวลเรื่อง Geopolitical risk เริ่มลดลง ผสานสงครามการค้าที่เริ่มคุยกันได้ ทำให้ตลาดเริ่มเข้าภาวะ Risk on มากขึ้น

ความน่าสนใจของสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำจึงลดลงในระยะสั้น ควรรอปรับฐานก่อนค่อยเข้ารอบใหม่

 

หุ้นกู้

หุ้นกู้เอกชนพื้นฐาน ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ต้องเลือกธุรกิจที่มั่นคง มีกระแสเงินสดพร้อมที่จะ refinance หรือ ไถ่ถอนหุ้นกู้

กลุ่มที่ควรระมัดระวัง คือพวกมีรายได้ไม่สม่ำเสมอ เช่น อสังหาฯขนาดเล็ก รับเหมา

 

หุ้นไทย

แม้ภาพของโลกจะเริ่มผ่อนคลาย และเข้าโหมด Risk on แต่หุ้นไทยถูกฉุดด้วยการเมือง จึงยังคงต้องใช้กลยุทธ์ย่อแรงค่อยเข้าสะสม โดยแนว stop loss ที่ 1050 ห้ามหลุดเด็ดขาด

 

หุ้นนอก

S&P500, Nasdaq ทำ new high ได้แล้ว มีอยู่ถือต่อไปได้ ขณะที่หุ้นจีน ฮ่องกง คู่กรณี ก็พร้อมจะฟื้นในลำดับถัดไป ดูน่าสนใจนะ

เช็คลิสต์ อะไรควรทำ ไม่ควรทำ ในช่วงวัยของคุณ



อายุ 25-35 ปี

สิ่งที่ควรทำเดี๋ยวนี้ – เพิ่มการออม

ค่าเงินบาทแข็งในระดับที่ดี เหมาะกับการเก็บเงินรูป FCD โดยสำรองไว้ 6 เดือนของค่าใช้จ่าย ใช้บัตรเครดิตเท่าที่จำเป็นรูดบัตรปุ๊บกันเงินสำรองทันที

รวมถึงทำประกันชีวิต+ประกันสุขภาพ อายุน้อยค่าเบี้ยประกันถูก วางแผนภาษีผ่าน Thai ESG โดยเน้นลงในกองตราสารหนี้ ไม่ต้องรอให้สิ้นปีค่อยลง

สามารถลงทุน ณ ปัจจุบันได้เลย สำหรับคนที่อยากลงทุนเองให้ลงทุนด้วยเงินน้อย ๆ และไม่ควรกู้เงินมาลงทุน

สิ่งที่ไม่ควรทำช่วงนี้

รูดบัตรเครดิตขั้นต่ำ เพราะดอกเบี้ยบัตรเครดิตแพงมาก

--------------------------------------------------------

อายุ 36-45 ปี

สิ่งที่ควรทำเดี๋ยวนี้ – มั่งคั่ง แผนเกษียน

สำหรับคนที่ผ่อนบ้านมา 3 ปี ให้หาโอกาส Refinance เพื่อลดภาระดอกเบี้ย โดยอย่ากู้เพิ่ม นอกจากนี้ควรผ่อนบ้านมากกว่าขั้นต่ำด้วย เพื่อให้หนี้หมดไวขึ้น ใครจะสร้างPassive income จากหุ้นเน้นหุ้นที่มีความเสี่ยงธุรกิจต่ำ Cash flow ในเกณฑ์ดี

ถ้าเป็นหุ้นกู้เน้นหุ้นกู้ระดับ Investment grade และหลีกเลี่ยงหุ้นกู้อสังหาฯ รับเหมาก่อสร้าง เพราะความเสี่ยงสูง

ใครวางแผนการศึกษาให้ลูกสามารถใช้กองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG และ RMF ได้ โดยต้องให้ Match ช่วงเวลาเข้าเรียนกับระยะเวลาถอนกองทุน

สิ่งที่ไม่ควรทำช่วงนี้

ก่อหนี้บริโภคหรือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้

--------------------------------------------------------

อายุ 46-60 ปี

สิ่งที่ควรทำเดี๋ยวนี้ - รักษาเงินใช้ยาวๆ

สำรวจค่าใช้จ่าย พร้อมกับ Cash flow ที่จะได้รับตอนเกษียณว่าพอหรือไม่ ถ้าไม่พอต้องวางแผนเพิ่มในสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิด

Cash flow อาจลงในกอง REIT ที่มี Cashflow ดีและมีอายุคงเหลือมากๆ รวมถึงลงทุนในประกันชีวิตแบบบำนาญ

นอกจากจะได้ Cash flow ช่วงเกษียณแล้วยังได้ลดหย่อนภาษีด้วย แต่ให้ลงไม่เกิน 100,000 บาท ต่อปี เพราะใช้สิทธิ์ลดหย่อนได้เท่านี้

พอร์ตการลงทุนควรลดความเสี่ยงลงมาถ้ายังมีหุ้นสามัญเยอะ  และควรวางเริ่มแผนมรดกได้แล้วพร้อมๆกับดูแลสุขภาพด้วย

นะครับ ^^

สิ่งที่ไม่ควรทำช่วงนี้

เทรดหุ้น คริปโต และ TFEX แบบเก็งกำไรและไม่ควรก่อหนี้เพิ่ม


คลิกที่นี่  โหลด e-book ข้อมูลชุดนี้เก็บเอาไว้อ้างอิง 
หรือ ส่งต่อให้เพื่อนๆ ของคุณที่ต้องการเริ่มต้นจัดการการเงินได้