ข้อมูลทั่วไปและทิศทางธุรกิจ
 
ก่อนเข้าสู่ตัวเลข ขอให้เข้าใจ “แนวทาง” ที่ TISCO ใช้ในการดำเนินธุรกิจ:
 
✅TISCO เน้นธุรกิจสินเชื่อที่มี ผลตอบแทนสูง (high-yield segment) เช่น สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ (auto title loans) รถใช้แล้ว (used car HP) มากกว่าสินเชื่อรถใหม่ เพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทน แต่มีความเสี่ยงดอกเบี้ยสูงและความเสี่ยงเครดิตสูงตามมา utrade
 
✅บริษัทปรับ “Credit cost” (ตั้งสำรองสำหรับหนี้เสีย) ให้เข้าสู่ “ภาวะปกติ” (normalization) ที่ประมาณ 100 basis points (bp) จากระดับต่ำในอดีต
 
✅แม้จะขยายธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น แต่ TISCO ยังคงรักษานโยบายการบริหารความเสี่ยง (credit underwriting) อย่างระมัดระวัง และพยายามควบคุมต้นทุน รวมทั้งปรับต้นทุนเงินทุน (cost of funds) ให้น้อยที่สุด
 
สรุปประเด็นสำคัญจากผลประกอบการ Q3/2568
 
TISCO รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2568 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568) มีกำไรสุทธิ 1,730 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโต 5.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (Q-Q) และเพิ่มขึ้น 1.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (Y-Y) ผลประกอบการนี้สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้​ โดยผลการดำเนินงานที่เติบโตมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการขยายตัวของรายได้ในทุกกลุ่มธุรกิจ​
 
✅รายได้รวม เติบโต 10.0% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของทั้งรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย​
 
✅รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ เพิ่มขึ้น 3.0% (Q-Q) เป็น 3,428 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลง​
 
✅รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ขยายตัวอย่างโดดเด่นถึง 25.9% (QoQ) โดยมาจากการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะธุรกิจนายหน้าประกันภัย (Bancassurance) ที่เติบโตตามปริมาณการปล่อยสินเชื่อใหม่ รวมถึงมีกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่ายุติธรรม (Mark-to-market) ในระดับสูง​
 
✅ คุณภาพสินทรัพย์ มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดลงมาอยู่ที่ 2.31% จาก 2.41% ในไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม TISCO ยังคงตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิต (ECL) ในระดับสูงที่ 830 ล้านบาท เพื่อรับมือกับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง​
 
✅อัตราผลตอบแทน การดำเนินงานที่แข็งแกร่งสะท้อนผ่านอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) ที่ระดับ 16.6%​
 
Valuation
 
ในส่วนของ Valuation (มูลค่า) ของ TISCO นั้น TISCO เป็นหุ้นที่มี มูลค่าไม่ได้ถูกมาก (Not Cheap) เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคาร แต่ราคาหุ้นยังคงถูกพยุงไว้ด้วยจุดเด่นเรื่อง อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงมาก (High Dividend Yield)
 
รายละเอียดการประเมินมูลค่า ณ ปัจจุบัน (อ้างอิงข้อมูลล่าสุด Q3/2568 และการคาดการณ์ปี 2568F):
 
✅P/E 12.18 เท่า สูงกว่า ค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารไทย ค่อนข้างแพง สะท้อนกำไรที่มั่นคงและปันผลสูง
 
✅ P/BV 1.98 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารไทย (ซึ่งมักจะต่ำกว่า 1 เท่า) แพง แต่สะท้อน ROE ที่สูงที่สุดในกลุ่ม
 
✅Dividend Yield (ปันผล) คาดการณ์ 7.5% - 8.0% (สำหรับปี 2568F) สูงที่สุด ในกลุ่มธนาคารไทย โดดเด่นและดึงดูด
 
✅ Return on Equity (ROE) ประมาณ 17.0% สูงที่สุด ในกลุ่มธนาคารไทยสะท้อนประสิทธิภาพในการทำกำไร)
 
💙สรุป
 
TISCO ไม่ใช่หุ้นที่น่าสนใจด้วยเหตุผลของ ราคาที่ถูก (Cheap Valuation) แต่เป็นหุ้นที่น่าสนใจด้วยเหตุผลของ คุณภาพ (Quality) คือมี ROE สูงสุด และ จ่ายปันผลสูงสุด ในกลุ่มธนาคาร ซึ่งช่วยจำกัดความเสี่ยงด้านราคาขาลงได้ดี
 
===================
STOCK UNBOX
ซีรีส์ที่จะพาคุณมา แกะกล่องหุ้น
ไม่ว่าจะเป็นหุ้นไทยหรือหุ้นต่างประเทศ
ดูเรื่องราวเบื้องหลังของบริษัท
ทำความรู้จักธุรกิจ โมเดลรายได้ จุดแข็ง–จุดอ่อน
และยังอัพเดทข่าวสำคัญที่กระทบกับหุ้นเหล่านี้
และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น…
เพราะยังมีหุ้นอีกมากมาย ที่เราจะมา UNBOX
เพื่อให้คุณเข้าใจตลาดหุ้นได้สนุกและง่ายขึ้นกว่าเดิม
===================
บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ในการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลก-0151-01 และการเป็นตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ใบอนุญาตเลขที่ ส1-0151-01