สรุปหุ้น TFFIF : กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย

TFFIF ผู้ถือสิทธิรายได้ค่าผ่านทางพิเศษจาก 2 เส้นทางหลักของ กทพ. มุ่งสู่ “Stabilized Infrastructure Income Platform” ด้วยรายได้ระยะยาว 30 ปีจากสัญญากับรัฐและโครงสร้างรายได้แบบ Passive Income เต็มรูปแบบ จุดแข็งคือ สิทธิรับรายได้ล่วงหน้า 45% จากทางพิเศษ และสถานะกึ่งผูกขาดในโครงสร้างพื้นฐานการเดินทางของกรุงเทพฯและภาคตะวันออก เสริมด้วย แนวโน้มจราจรฟื้นตัว และโครงการทางด่วนใหม่ที่เชื่อมต่อโดยตรงกับสินทรัพย์ของกองทุน


ข้อมูลเบื้องต้น

  ตลาดหลักทรัพย์ที่จดทะเบียน: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

  อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง: บริการ / ขนส่งและโลจิสติกส์

  SET ESG Ratings : -

  ขนาดบริษัท (Market Cap): 25,363.50 ล้านบาท

 ข้อมูลอัพเดท ณ วันที่ 24/06/68

 

สินค้า และ บริการ

กลุ่มธุรกิจ สินค้า/บริการหลัก รายละเอียด/กลุ่มเป้าหมาย บริษัทในเครือ
ทางพิเศษ สิทธิรายได้จากค่าผ่านทาง 2 สายทาง ผู้ใช้ทางพิเศษฉลองรัชและบูรพาวิถี ไม่มี

TFFIF สร้างรายได้หลักจากสิทธิรายได้ค่าผ่านทางทางพิเศษในเขตกรุงเทพฯและภาคตะวันออก โดยลงทุนในสัญญารับโอนสิทธิ 45% จากทางพิเศษฉลองรัชและบูรพาวิถี เป็นระยะเวลา 30 ปี จุดเด่นอยู่ที่โครงสร้างรายได้ที่มั่นคงจากรัฐ พร้อมกระแสเงินสดที่แน่นอน รองรับการจ่ายปันผลรายไตรมาส กองทุนมุ่งบริหารจัดการทรัพย์สินผ่านพันธมิตรอย่าง กทพ. และใช้การประเมินมูลค่าแบบ Income Approach เพื่อควบคุมคุณภาพและผลตอบแทนในระยะยาว เสริมด้วยโอกาสจากการขยายทางด่วนใหม่ในอนาคตที่เชื่อมต่อกับสินทรัพย์เดิมของกองทุน

สัดส่วนรายได้จากแต่ละธุรกิจ

กลุ่มธุรกิจ/ผลิตภัณฑ์ รายได้ปี 2566 (ลบ.) สัดส่วน % รายได้ปี 2567 (ลบ.) สัดส่วน % การเปลี่ยนแปลง
ทางพิเศษฉลองรัช 0 0 1,241.26 58.37% 🟩เพิ่มขึ้น 100.00%
ทางพิเศษบูรพาวิถี 0 0 885.14 41.63% 🟩เพิ่มขึ้น 100.00%
รวม 1,977.28 100% 2,126.40 100% 🟩เพิ่มขึ้น 7.54%

ข้อมูลล่าสุดของปี 2567 จาก 56-1 ของบริษัท

**สามารถอัปเดตข้อมูลล่าสุดได้ คลิกที่นี่  Liberator -เทรดหุ้นไทย หุ้น US - Apps on Google Play

 

ความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน

🔹 โครงสร้างธุรกิจชัดเจน มุ่งสู่รายได้ประจำจากโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ
+TFFIF มีโครงสร้างธุรกิจที่เรียบง่ายแต่มั่นคง โดยลงทุนในสิทธิรายได้ 45% จากค่าผ่านทางพิเศษ 2 เส้นทางหลัก ได้แก่ ทางพิเศษฉลองรัช และบูรพาวิถี ซึ่งดำเนินการโดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ครอบคลุมเส้นทางคมนาคมหลักของกรุงเทพฯ และภาคตะวันออก

🔹 ฐานรายได้หลักจากสัญญากับรัฐ มั่นคงระยะยาว 30 ปี
+รายได้ของกองทุนมาจากสัญญารับโอนสิทธิรายได้กับ กทพ. ระยะเวลา 30 ปี ตั้งแต่ปี 2561 ถึง 2591 สะท้อนฐานรายได้ที่ชัดเจนและแน่นอน ไม่มีความเสี่ยงด้านการขายหรือคู่แข่งโดยตรง และไม่ต้องบริหารจัดการทางพิเศษเอง

🔹 จุดแข็งด้านกระแสเงินสดสม่ำเสมอ พร้อมจ่ายปันผลรายไตรมาส
+ด้วยโครงสร้างต้นทุนต่ำ ไม่มีภาระดอกเบี้ยเงินกู้ TFFIF สามารถสร้างกระแสเงินสดสุทธิได้สูงอย่างสม่ำเสมอ และจ่ายเงินปันผลต่อหน่วยได้อย่างมั่นคง คิดเป็นอัตรา Dividend Yield ปีล่าสุดประมาณ 6.5%

🔹 มาตรฐานธรรมาภิบาลผ่านการกำกับโดยรัฐวิสาหกิจ
+แม้กองทุนไม่ดำเนินงานเอง แต่ทรัพย์สินของกองทุนถูกบริหารโดย กทพ. ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีประสบการณ์สูงและอยู่ภายใต้กรอบธรรมาภิบาลของภาครัฐ

🔹 โอกาสจากโครงข่ายทางด่วนใหม่ เชื่อมต่อกับสินทรัพย์เดิม
+โครงการทางพิเศษในอนาคต เช่น ฉลองรัช-วงแหวนตะวันออก และเส้นทางเชื่อม EEC จะเชื่อมต่อกับทรัพย์สินเดิมของกองทุนโดยตรง เพิ่มโอกาสในการเติบโตของรายได้ในระยะยาว

ความเสี่ยงของธุรกิจและมาตราการการรับมือ

🔹 ความเสี่ยงจากการพึ่งพาทรัพย์สินเพียง 2 สายทางหลัก

-ความเสี่ยง: รายได้ของกองทุนมาจากสิทธิในค่าผ่านทางของทางพิเศษฉลองรัชและบูรพาวิถีเท่านั้น หากมีการลดลงของปริมาณจราจรหรือการปิดปรับปรุงถนน อาจกระทบต่อรายได้โดยตรง

+มาตรการการรับมือ: กองทุนติดตามแผนพัฒนาโครงข่ายทางด่วนใหม่ และพร้อมพิจารณาการลงทุนในสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานอื่นเพิ่มเติมเพื่อกระจายความเสี่ยงในระยะยาว

🔹 ความเสี่ยงจากการบริหารงานโดยหน่วยงานภายนอก (กทพ.)

-ความเสี่ยง: กองทุนไม่มีอำนาจควบคุมการบริหารและซ่อมบำรุงถนนด้วยตนเอง หากการทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีปัญหาในการดำเนินงาน อาจกระทบต่อรายได้

+มาตรการการรับมือ: มีการกำหนดกลไกในสัญญาเพื่อกำกับดูแลและประเมินผลการดำเนินงานของ กทพ. อย่างต่อเนื่องตามเกณฑ์ที่ตกลงไว้

🔹 ความเสี่ยงจากจำนวนผู้ใช้ทางพิเศษที่ผันผวนตามเศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภค

-ความเสี่ยง: หากเศรษฐกิจชะลอตัวหรือพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอื่น อาจทำให้จำนวนรถยนต์ลดลง ส่งผลกระทบต่อรายได้

+มาตรการการรับมือ: โครงสร้างค่าผ่านทางมีการปรับขึ้นเป็นรอบตามสัญญา และทางพิเศษทั้งสองยังคงเป็นเส้นทางหลักที่มีความจำเป็นต่อการเดินทางระหว่างเมือง

🔹 ความเสี่ยงจากการไม่มีการลงทุนใหม่หลังหมดสัญญา

-ความเสี่ยง: เมื่อสิ้นสุดอายุสัญญาในปี 2591 กองทุนจะไม่ได้รับรายได้จากทรัพย์สินเดิมอีก หากไม่มีการลงทุนเพิ่ม รายได้จะหายไป

+มาตรการการรับมือ: ผู้จัดการกองทุน (KTAM) อยู่ระหว่างศึกษาโอกาสการลงทุนใหม่ทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน โดยเน้นโครงสร้างพื้นฐานที่ให้กระแสเงินสดมั่นคงในลักษณะเดียวกัน

🔹 ความเสี่ยงจากการตีความกฎหมายหรือข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิรายได้

-ความเสี่ยง: หากมีการตีความสัญญาแตกต่างกัน หรือมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายจากภาครัฐ อาจกระทบสิทธิรายได้ของกองทุน

+มาตรการการรับมือ: สัญญาที่จัดทำขึ้นมีความชัดเจน ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และมีกระบวนการอนุมัติที่เป็นทางการทุกขั้นตอน

โครงการในอนาคต

🔹 ต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานรายได้มั่นคง เพื่อเป็นแพลตฟอร์มลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานระยะยาว TFFIF มุ่งพัฒนาแพลตฟอร์ม “Stabilized Infrastructure Income” ด้วยการต่อยอดการลงทุนจากสิทธิรายได้เดิมสู่โอกาสใหม่ในโครงสร้างพื้นฐานรัฐ ทั้งในประเทศไทยและอาเซียน โดยเน้นสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ประจำและมีภาครัฐเป็นคู่สัญญา

🔹 รับโอกาสจากการขยายโครงข่ายทางพิเศษของประเทศมีแผนลงทุนเพิ่มเติมในโครงข่ายทางพิเศษใหม่ที่เชื่อมต่อโดยตรงกับทรัพย์สินเดิม เช่น ทางพิเศษฉลองรัช-วงแหวนรอบนอก และทางพิเศษฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการโดย กทพ. เพื่อเพิ่มศักยภาพรายได้ในอนาคต

🔹 วางโครงสร้างการประเมินมูลค่าทรัพย์สินแบบยั่งยืนกองทุนใช้วิธี Income Approach ที่อิงจากสมมติฐานอนุรักษนิยม และมีการปรับปรุงสมมติฐานรายได้อย่างรอบคอบทุกปี เพื่อให้สะท้อนความเป็นจริงของปริมาณจราจรและค่าผ่านทาง พร้อมรักษาเสถียรภาพของ NAV ในระยะยาว

🔹 เปิดทางสู่โครงการร่วมลงทุนใหม่กับภาครัฐ (PPP Projects)ผู้จัดการกองทุนอยู่ระหว่างติดตามนโยบายรัฐในการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานรูปแบบ PPP โดย TFFIF อาจพิจารณาลงทุนในสินทรัพย์ใหม่ เช่น รถไฟรางเบา ท่าเรือ หรือระบบคมนาคมที่ให้รายได้ประจำคล้ายรูปแบบทางด่วน

🔹 คงเป้าหมายเป็นกองทุนรายได้มั่นคงสำหรับนักลงทุนระยะยาว TFFIF ตั้งเป้าเป็นกองทุนที่ให้กระแสเงินสดต่อเนื่องจากทรัพย์สินที่รัฐสนับสนุน พร้อมนโยบายจ่ายปันผลสม่ำเสมอรายไตรมาส และสร้างความเชื่อมั่นด้านธรรมาภิบาลผ่านการเปิดเผยข้อมูลและบริหารจัดการอย่างโปร่งใส

กราฟราคาหุ้น : TFFIF


** เพื่อนๆสามารถคลิ้กที่รูปกราฟ เพื่อติดตามข้อมูล RealTime ล่าสุดของวันนี้ได้นะ **

เว็บไซต์บริษัท :  TFFIF
56-1 รายงานประจำปี 2567 (Annual Report) : คลิ้กที่นี่เพื่อดาวน์โหลด

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

🔹 รายได้หลักของ TFFIF มาจากธุรกิจใด?รายได้หลักของ TFFIF มาจาก สิทธิรายได้ค่าผ่านทางทางพิเศษ 2 สายทางของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้แก่ ทางพิเศษฉลองรัชและบูรพาวิถี โดยกองทุนได้รับ 45% ของรายได้ค่าผ่านทางสุทธิตลอดระยะเวลา 30 ปี (2561–2591) รายได้ในปี 2567 รวม 2,126 ล้านบาท แบ่งเป็น ฉลองรัช 58.4% และบูรพาวิถี 41.6% ของรายได้รวมทั้งหมด

🔹 จุดเด่นที่สุดที่ทำให้กองทุนน่าสนใจคืออะไร? TFFIF มีจุดแข็งจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างรายได้ประจำจากรัฐ มีสัญญารับรายได้ระยะยาวกับการทางพิเศษฯ โดยไม่ต้องแบกรับต้นทุนการบริหารจัดการหรือซ่อมบำรุงเอง กองทุนยังไม่มีหนี้สิน ทำให้กระแสเงินสดสุทธิสูง และสามารถจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ พร้อมโอกาสเติบโตจากทางพิเศษใหม่ที่จะเชื่อมต่อกับสินทรัพย์เดิม

🔹 กองทุนมีแผนการเติบโตในอนาคตอย่างไร? TFFIF อยู่ระหว่างติดตามโครงการลงทุนใหม่จากภาครัฐ เช่น ทางพิเศษฉลองรัช-วงแหวนรอบนอก และฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี ที่จะเพิ่มปริมาณจราจรในระบบทางด่วนเดิม และอาจพิจารณาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานประเภทอื่นผ่านโครงการ PPP เพื่อขยายแหล่งรายได้ในอนาคต โดยยังคงเป้าหมายการเป็นกองทุนสร้างกระแสเงินสดมั่นคงระยะยาวให้แก่นักลงทุน

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

 
ซื้อหุ้น TFFIF ได้ที่ Liberator | ไม่มีขั้นต่ำ เซฟต้นทุนให้คุณตั้งแต่บาทแรก