SINGER สร้างรายได้หลักจากการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคและเชิงพาณิชย์ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ตู้แช่ ตู้เติมเงิน ตู้เติมน้ำมัน และโทรศัพท์มือถือ โดยมีบริการหลักคือการจำหน่ายสินค้าแบบเช่าซื้อภายใต้แบรนด์ “ซิงเกอร์” ผ่านบริษัทในเครือ SGC ที่บริษัทถือหุ้น 78.17% SINGER มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าครัวเรือนและผู้ประกอบการรายย่อย พร้อมขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และเดินหน้าพัฒนาโซลูชันทางการเงินเพื่อเพิ่มการเข้าถึงสินค้าสำหรับลูกค้ากลุ่มกว้างอย่างต่อเนื่อง

สัดส่วนรายได้จากแต่ละธุรกิจ

ข้อมูลล่าสุดของปี 2567 จาก 56-1 ของบริษัท

**สามารถอัปเดตข้อมูลล่าสุดได้ คลิกที่นี่ 

ความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน

🔹 เครือข่ายปฏิบัติการและโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดจำหน่าย

+SINGER มีศูนย์บริหารจัดการและคลังสินค้าที่รองรับการกระจายสินค้าทั่วประเทศ ผ่านสาขาและตัวแทนจำหน่ายในทุกภูมิภาค รวมถึงระบบขนส่งภายในที่สนับสนุนการให้บริการหลังการขายและการติดตั้งสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ รองรับทั้งสินค้าภายในบ้านและเชิงพาณิชย์

🔹 ฐานลูกค้าหลักครอบคลุมครัวเรือนและผู้ประกอบการรายย่อย

+ลูกค้าหลักของ SINGER คือครัวเรือนทั่วไป และผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการสินค้าผ่อนชำระ โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดที่เข้าถึงบริการทางการเงินจากธนาคารได้ยาก ซึ่งบริษัทสามารถเข้าถึงได้ผ่านระบบเช่าซื้อที่บริหารโดย SGC

🔹 บริการครบวงจรด้านการขายแบบเช่าซื้อ

+SINGER ให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การนำเสนอสินค้า การจัดจำหน่าย การอนุมัติวงเงินเช่าซื้อ และการติดตามหนี้สิน โดยมีบริษัทในเครือคือ SGC ที่เป็นผู้ให้สินเชื่อเช่าซื้อครอบคลุมทั้งสินค้าในบ้านและเชิงพาณิชย์ เพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น

🔹 การพัฒนาและรักษามาตรฐานการบริหารจัดการ

+SINGER ดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งมั่นในธรรมาภิบาลและความโปร่งใส โดยให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิต การควบคุมคุณภาพบริการ และการรักษาความน่าเชื่อถือของแบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 50 ปี

🔹 การเติบโตผ่านการเข้าถึงชุมชนระดับท้องถิ่น

+SINGER ขยายฐานธุรกิจอย่างต่อเนื่องผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายในระดับอำเภอและตำบลทั่วประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในพื้นที่ที่ระบบค้าปลีกสมัยใหม่เข้าไม่ถึง โดยอาศัยความเชื่อมั่นและความใกล้ชิดกับชุมชนเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน

ความเสี่ยงของธุรกิจและมาตราการการรับมือ

🔹 ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายและกฎระเบียบด้านการค้าปลีกและการให้สินเชื่อ

-ความเสี่ยง: ธุรกิจของ SINGER พึ่งพารูปแบบการขายแบบเช่าซื้อซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานรัฐ เช่น ธปท. และ สคบ. การเปลี่ยนแปลงนโยบาย เช่น การกำหนดเพดานดอกเบี้ย การควบคุมเครดิต หรือข้อกำหนดใหม่เกี่ยวกับการขายผ่อน อาจส่งผลต่อรูปแบบธุรกิจและความสามารถในการทำกำไร

+มาตรการการรับมือ: บริษัทติดตามนโยบายภาครัฐอย่างใกล้ชิด พร้อมปรับกระบวนการปล่อยสินเชื่อและโครงสร้างทางการเงินให้สอดคล้องกับกฎระเบียบใหม่

🔹 ความเสี่ยงจากการพึ่งพาบุคลากรภาคสนามและตัวแทนจำหน่าย

-ความเสี่ยง: SINGER มีเครือข่ายตัวแทนขายทั่วประเทศที่เป็นหัวใจของการขับเคลื่อนรายได้ หากเกิดการสูญเสียหรือขาดความต่อเนื่องของทีมขายในบางพื้นที่ อาจกระทบต่อยอดขายและความสัมพันธ์กับลูกค้า

+มาตรการการรับมือ: บริษัทให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมและสร้างแรงจูงใจแก่ตัวแทนจำหน่าย พร้อมพัฒนาเครือข่ายผู้ขายสำรองในแต่ละภูมิภาคเพื่อรองรับความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงบุคลากร

🔹 ความเสี่ยงจากการแข่งขันที่รุนแรงและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค

-ความเสี่ยง: ตลาดสินค้าอุปโภคและการขายผ่อนชำระมีการแข่งขันสูงจากทั้งร้านค้าทั่วไป แพลตฟอร์มออนไลน์ และผู้ให้บริการสินเชื่อรายอื่น อีกทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เช่น นิยมซื้อผ่านออนไลน์ อาจส่งผลกระทบต่อช่องทางการขายแบบดั้งเดิมของ SINGER

+มาตรการการรับมือ: บริษัทพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์และปรับโมเดลธุรกิจให้สอดคล้องกับพฤติกรรมใหม่ พร้อมส่งเสริมจุดแข็งด้านบริการหลังการขายและการเข้าถึงชุมชนระดับท้องถิ่น

🔹 ความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจและความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า

-ความเสี่ยง: เนื่องจากลูกค้าหลักเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง หากเกิดเศรษฐกิจชะลอตัว อัตราการผิดนัดชำระหนี้ (NPL) อาจเพิ่มขึ้น กระทบต่อรายได้และคุณภาพพอร์ตสินเชื่อ

+มาตรการการรับมือ: บริษัทใช้ระบบบริหารความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่ออย่างเข้มงวด รวมถึงระบบติดตามและบริหารหนี้ที่มีประสิทธิภาพผ่าน SGC

🔹 ความเสี่ยงด้านต้นทุนและการบริหารคลังสินค้า

-ความเสี่ยง: ราคาสินค้านำเข้าและต้นทุนโลจิสติกส์ที่ผันผวนอาจส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้น หากไม่มีการบริหารจัดการสินค้าคงคลังและต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

+มาตรการการรับมือ: SINGER ปรับปรุงกระบวนการบริหารคลังสินค้า และเจรจากับผู้ผลิต/คู่ค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมต้นทุน พร้อมใช้เทคโนโลยีช่วยในการบริหารจัดการสต็อกให้เหมาะสม

โครงการในอนาคต

🔹 พัฒนาระบบบริการเช่าซื้อและเทคโนโลยีสินเชื่อแบบครบวงจร SINGER เร่งพัฒนาระบบปล่อยสินเชื่อและอนุมัติวงเงินเช่าซื้อด้วยเทคโนโลยี AI และ Big Data เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า พร้อมยกระดับระบบติดตามการชำระเงินแบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชัน

🔹 ขยายฐานลูกค้ากลุ่มค้าปลีกต่างจังหวัดและกลุ่มพาณิชย์ขนาดเล็ก มุ่งเน้นขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย (micro-SME) โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทและหัวเมืองรอง ผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและโปรแกรมเช่าซื้อเฉพาะกลุ่ม พร้อมพัฒนาสินค้าเชิงพาณิชย์เฉพาะทาง เช่น ตู้แช่ ตู้เติมเงิน และอุปกรณ์ร้านค้าสมัยใหม่

🔹 เพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ ลงทุนพัฒนาระบบกระจายสินค้าอัจฉริยะ การบริหารคลังสินค้าด้วยระบบ WMS (Warehouse Management System) และระบบติดตามการส่งมอบสินค้าแบบเรียลไทม์ เพื่อรองรับการเติบโตของยอดขายในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ

🔹 ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อความยั่งยืน พัฒนาโครงการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในคลังสินค้าและสำนักงานใหญ่ พร้อมวางระบบจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) และกระบวนการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์สินค้า เพื่อลดต้นทุนพลังงานระยะยาว และยกระดับมาตรฐาน ESG ขององค์กร

🔹 ตั้งเป้ารับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์สำหรับการดำเนินงานภายในปี 2568 ดำเนินการตรวจวัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมโลจิสติกส์และระบบขนส่ง พร้อมจัดทำแผนลดการใช้พลังงานฟอสซิล และใช้ระบบขนส่งทางเลือก เช่น รถไฟฟ้าหรือรถไฮบริดในอนาคต เพื่อก้าวสู่เป้าหมาย Net Zero ในระยะยาว

กราฟราคาหุ้น : SINGER