SCCC สร้างรายได้หลักจากการผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์ ปูนเม็ด ปูนสำเร็จรูป รวมถึงวัสดุก่อสร้างในประเทศไทย โดยมีบริการหลักเช่น ร้านค้าจำหน่ายปูนซีเมนต์แบรนด์ "อินทรี" และการให้บริการด้านพลังงานและการจัดการของเสีย บริษัทมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมขยายโครงการพลังงานสะอาดและพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

สัดส่วนรายได้จากแต่ละธุรกิจ

ข้อมูลล่าสุดของปี 2567 จาก 56-1 ของบริษัท

**สามารถอัปเดตข้อมูลล่าสุดได้ คลิกที่นี่ 

ความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน

🔹 ที่ดินและโครงสร้างพื้นฐานในทำเลยุทธศาสตร์

+SCCC มีโครงข่ายการผลิตปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างที่ครอบคลุมในพื้นที่ยุทธศาสตร์ เช่น กรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่างๆ ที่เป็นศูนย์กลางการก่อสร้างในประเทศไทย ซึ่งช่วยเสริมการขยายธุรกิจและรองรับการเติบโตในอุตสาหกรรมก่อสร้างในอนาคต.

🔹 ฐานลูกค้าหลักทั้งในประเทศและต่างประเทศ

+ลูกค้าหลักของ SCCC ได้แก่ อุตสาหกรรมก่อสร้างในประเทศไทย โดยมีแผนการขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม ศรีลังกา และบังกลาเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ.

🔹 บริการครบวงจร

+SCCC ให้บริการครบวงจรผ่านการผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพสูง พร้อมทั้งให้บริการด้านพลังงานและการจัดการของเสีย โดยใช้เทคโนโลยีทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม.

🔹 การพัฒนาและรักษามาตรฐาน ESG

+SCCC มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และตอบสนองมาตรฐาน ESG โดยใช้พลังงานทดแทนในกระบวนการผลิตและพัฒนาโครงการที่ส่งเสริมความยั่งยืนในอนาคต.

🔹 การเติบโตจากการขยายธุรกิจในต่างประเทศ

+SCCC กำลังขยายธุรกิจไปยังประเทศในเอเชีย เช่น เวียดนาม ศรีลังกา และบังกลาเทศ โดยมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าและพัฒนาโครงการผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในต่างประเทศ.

ความเสี่ยงของธุรกิจและมาตราการการรับมือ

🔹 ความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและอุตสาหกรรมการก่อสร้าง

-ความเสี่ยง: การลงทุนในโครงการผลิตปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างของ SCCC อาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือความไม่แน่นอนทางการเมืองในตลาดต่างประเทศ ซึ่งอาจลดความต้องการสินค้าหรือบริการในภาคก่อสร้าง.

+มาตรการการรับมือ: SCCC กระจายความเสี่ยงโดยการขยายฐานลูกค้าในหลายประเทศ พร้อมพัฒนาโครงการพลังงานสะอาดและวัสดุก่อสร้างที่ยั่งยืน เพื่อตอบสนองการเติบโตในระยะยาว.

🔹 ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม

-ความเสี่ยง: การผลิตปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างอาจได้รับผลกระทบจากกฎระเบียบใหม่ที่เข้มงวดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เช่น กฎหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่อาจเพิ่มต้นทุนการดำเนินงาน.

+มาตรการการรับมือ: SCCC ตั้งเป้าหมายในการพัฒนาโครงการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้พลังงานทดแทนและเทคโนโลยีการผลิตที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม.

🔹 ความเสี่ยงจากการแข่งขันในตลาดวัสดุก่อสร้าง

-ความเสี่ยง: ตลาดวัสดุก่อสร้างและปูนซีเมนต์มีการแข่งขันสูงจากผู้ประกอบการหลายราย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายรัฐที่อาจส่งผลต่อการขยายธุรกิจ.

+มาตรการการรับมือ: SCCC เน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น การพัฒนาโซลูชันวัสดุก่อสร้างที่ยั่งยืน และการขยายการให้บริการในตลาดต่างประเทศ.

🔹 ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในรายได้ต่างประเทศ

-ความเสี่ยง: รายได้จากการขยายธุรกิจในต่างประเทศ เช่น เวียดนาม ศรีลังกา และบังกลาเทศ อาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงิน ซึ่งอาจทำให้การแปลงรายได้จากต่างประเทศเป็นเงินบาทมีความเสี่ยง.

+มาตรการการรับมือ: SCCC ใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และบริหารจัดการสภาพคล่องทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ.

🔹 ความเสี่ยงจากข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานในบางพื้นที่

-ความเสี่ยง: พื้นที่บางแห่งอาจมีข้อจำกัดในการเข้าถึงโครงข่ายหรือการขอใบอนุญาตพัฒนา ซึ่งอาจทำให้การขยายโครงข่ายการผลิตและการให้บริการเกิดความล่าช้า.

+มาตรการการรับมือ: SCCC เลือกทำเลที่ตั้งของโครงการผลิตปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างในพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับระบบการขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ พร้อมทำงานร่วมกับภาครัฐเพื่อเร่งกระบวนการพัฒนา.

โครงการในอนาคต

🔹 พัฒนาบริการและโครงข่ายผลิตภัณฑ์ใหม่เร่งพัฒนาโครงข่ายการผลิตและโครงการอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของประเทศไทย เช่น กรุงเทพมหานคร ชลบุรี และภูเก็ต เพื่อรองรับความต้องการจากลูกค้าในอุตสาหกรรมก่อสร้าง และการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการพัฒนาโซลูชันพลังงานทดแทนใหม่ ๆ.

🔹 ขยายฐานลูกค้ากลุ่มธุรกิจเป้าหมายมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าจากอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น พลังงานทดแทน, เทคโนโลยี AI, และอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งรักษาฐานลูกค้าจากตลาดต่างประเทศ และขยายโครงการพลังงานสะอาดและวัสดุก่อสร้างในภูมิภาคเพื่อรองรับความต้องการของตลาด.

🔹 เพิ่มประสิทธิภาพบริการโครงสร้างพื้นฐานลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้า น้ำ และก๊าซธรรมชาติ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีใหม่ในการควบคุมและตรวจสอบคุณภาพบริการแบบเรียลไทม์ เพื่อให้บริการที่มีประสิทธิภาพและต้นทุนที่แข่งขันได้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง.

🔹 ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสีเขียวลงทุนในโครงการพัฒนาระบบจัดการน้ำเสียและพลังงานทดแทน รวมถึงการสร้างพื้นที่สีเขียวในโครงการต่างๆ โดยมุ่งยกระดับมาตรฐาน ESG และตอบโจทย์นักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืน.

🔹 ตั้งเป้ารับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ทุกโครงการตั้งเป้าหมายในการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ทุกโครงการภายในปี 2568 โดยดำเนินโครงการตรวจวัดและจัดการก๊าซเรือนกระจกในโครงการต่างๆ พร้อมรายงานผลและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2040.

กราฟราคาหุ้น : SCCC