สรุปหุ้น PRI : บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน)

 

PRI เป็นโฮลดิ้งที่ลงทุนในธุรกิจบริการอสังหาฯ แบบครบวงจร ผ่านบริษัทย่อย 18 แห่ง จุดแข็งคือบริการ One Stop Service และความเชี่ยวชาญในอสังหาฯ มุ่งเติบโตยั่งยืนผ่านบริการใหม่ เช่น Pet Wellness – DoorMart และระบบ Primo Plus ที่ใช้ AI และ Data Analytics.


ข้อมูลเบื้องต้น

  ตลาดหลักทรัพย์ที่จดทะเบียน: ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (MAI)

  อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง: อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง 

  SET ESG Ratings : -

  ขนาดบริษัท (Market Cap): 1,568.00 ล้านบาท

 ข้อมูลอัพเดท ณ วันที่ 31/07/68

 

สินค้า และ บริการ

กลุ่มธุรกิจ สินค้า/บริการหลัก รายละเอียด/กลุ่มเป้าหมาย บริษัทในเครือ
Pre-Living Services งานที่ปรึกษา ควบคุม และออกแบบ โครงการคอนโดฯ ศูนย์การค้า โรงแรม UPM, UDS, PJA
Living Services บริหารจัดการอสังหาฯ และเป็นนายหน้า นิติบุคคล, Service Apt., บริการ Software
PMM, CRD, HHR, PRT, PAS, JCO, P2M, LTL
Living & Earning Services ตกแต่งภายใน, เฟอร์นิเจอร์, แม่บ้าน ทั้ง B2C และ B2B
WYDE, UNO, WFN, PIB, UFM

PRI สร้างรายได้หลักจากการลงทุนในธุรกิจบริการสนับสนุนอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรผ่าน 18 บริษัทย่อย โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก: ที่ปรึกษา/ออกแบบ บริหารอสังหาฯ และบริการหลังการขาย เสริมจุดแข็งด้วยบริการ One Stop Service ที่เชื่อมโยงตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ มุ่งสู่รายได้ที่ยั่งยืนผ่านการขยายบริการใหม่ เช่น Smart Application – Pet Wellness – DoorMart พร้อมยกระดับระบบบริหารลูกค้าด้วย Primo Plus และการใช้ AI–Data Analytics ควบคู่แนวทาง ESG เพื่อเติบโตระยะยาวในฐานะบริษัทโฮลดิ้ง

สัดส่วนรายได้จากแต่ละธุรกิจ

กลุ่มธุรกิจ รายได้ปี 2566 (ลบ.) สัดส่วน % รายได้ปี 2567 (ลบ.) สัดส่วน % การเปลี่ยนแปลง
ที่ปรึกษา/ออกแบบ 496.1 25.89% 394.93 24.62% 🟥ลดลง -20.39%
บริหารอสังหาฯ 499 26.05% 435.16 27.13% 🟥ลดลง -12.79%
บริการหลังการขาย 917.8 47.90% 773.12 48.20% 🟥ลดลง -15.76%
อื่น ๆ 3 0.16% 33.92 0.05% 🟩เพิ่มขึ้น 1030.67%
รวม 1,915.90 100% 1,637.13 100% 🟥ลดลง -14.55%

ข้อมูลล่าสุดของปี 2567 จาก 56-1 ของบริษัท

**สามารถอัปเดตข้อมูลล่าสุดได้ คลิกที่นี่  Liberator -เทรดหุ้นไทย หุ้น US - Apps on Google Play

 

ความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน

🔹 ฐานรายได้หลักจากธุรกิจบริการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร
+PRI สร้างรายได้หลักจากธุรกิจบริการหลังการขายอสังหาริมทรัพย์ (48.2% ของรายได้ปี 2567) รวมถึงงานบริหารจัดการและออกแบบ ครอบคลุมทั้ง B2B และ B2C โดยให้บริการแก่กลุ่มอสังหาฯ ชั้นนำ ผ่านบริษัทย่อย 18 แห่ง ในรูปแบบ One Stop Service

🔹 จุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญและระบบบริการในเครือ
+บริษัทมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางทั้งด้านงานออกแบบ-ควบคุมก่อสร้าง บริหารนิติบุคคล และบริการตกแต่งภายใน เสริมด้วยระบบดิจิทัล "Primo Plus" ที่ช่วยเชื่อมโยงบริการและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการลูกค้าในเครือได้อย่างไร้รอยต่อ

🔹 การต่อยอดจากฐานลูกค้าอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่
+PRI ทำงานร่วมกับผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ รายใหญ่ (เช่น บริษัทในกลุ่มอนันดาฯ) ทำให้สามารถต่อยอดไปสู่บริการเสริม เช่น DoorMart (ค้าปลีก), Pet Wellness (สัตว์เลี้ยง), Interior (ตกแต่ง), และแม่บ้าน โดยใช้ฐานลูกค้าเดิมเป็นจุดตั้งต้น

🔹 โอกาสเติบโตจากเทคโนโลยีและบริการใหม่
+บริษัทมุ่งลงทุนในแพลตฟอร์มใหม่ เช่น AI, Data Analytics, และ Smart Application เพื่อยกระดับการให้บริการ เพิ่มรายได้ recurring และรองรับการเติบโตในยุคดิจิทัล ควบคู่กับแนวทาง ESG ที่วางไว้ในเป้าหมายระยะยาว

ความเสี่ยงของธุรกิจและมาตราการการรับมือ

🔹 ความเสี่ยงจากการพึ่งพาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
-ความเสี่ยง: รายได้ทั้งหมดของ PRI มาจากบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ หากภาคอสังหาฯ ชะลอตัวหรือมีวิกฤตซ้ำซ้อน อาจส่งผลกระทบต่อทุกกลุ่มธุรกิจในเครือ
+มาตรการการรับมือ: กระจายบริการไปสู่ลูกค้า B2C เพิ่มขึ้น ขยายผลิตภัณฑ์นอกเหนือจากอสังหาฯ เช่น DoorMart, Pet Wellness และพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อสร้าง recurring income

🔹 ความเสี่ยงจากความผันผวนของรายได้ในบางธุรกิจ
-ความเสี่ยง: ธุรกิจงานโครงการและออกแบบยังมีลักษณะเป็นรายได้ไม่สม่ำเสมอ ขึ้นกับรอบของการเปิดโครงการใหม่
+มาตรการการรับมือ: พัฒนาโมเดลบริการแบบ Subscription และเน้นรับงานจากหลากหลายโครงการเพื่อกระจายความเสี่ยงทางรายได้

🔹 ความเสี่ยงจากการแข่งขันสูงในตลาดบริการอสังหาฯ
-ความเสี่ยง: ผู้เล่นรายใหม่สามารถเข้ามาได้ง่าย โดยเฉพาะกลุ่มบริการแม่บ้าน ตกแต่ง หรือบริหารนิติบุคคล ทำให้ต้องแข่งขันทั้งด้านราคาและคุณภาพ
+มาตรการการรับมือ: ใช้จุดแข็ง One Stop Service เชื่อมโยงบริการภายในเครือ และใช้ระบบ Primo Plus เสริมคุณภาพและสร้างความแตกต่าง

🔹 ความเสี่ยงจากการขาดบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
-ความเสี่ยง: การขยายตัวของกลุ่มธุรกิจใหม่ทำให้ PRI ต้องการบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี การออกแบบ การบริหารนิติฯ มากขึ้น
+มาตรการการรับมือ: จัดตั้ง UPM Academy เพื่อพัฒนาทักษะพนักงานอย่างเป็นระบบ และสร้างแรงจูงใจในการรักษาบุคลากรระยะยาว

🔹 ความเสี่ยงด้าน ESG และภาพลักษณ์องค์กร
-ความเสี่ยง: หากไม่มีการขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานร่วมกับลูกค้าองค์กรและพันธมิตรในอนาคต
+มาตรการการรับมือ: มีนโยบาย ESG ที่ชัดเจน ตั้งเป้าลดคาร์บอน ฟุตพรินต์ และได้รับการรับรองการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากหน่วยงานภายนอก เช่น Bureau Veritas

โครงการในอนาคต

🔹 ยกระดับระบบเทคโนโลยีเพื่อบริหารงานและบริการลูกค้า PRI พัฒนาแพลตฟอร์ม Primo Plus เพื่อเชื่อมต่อบริการทั้งในเครือ ตั้งแต่บริหารนิติบุคคล ระบบแจ้งซ่อม ชำระเงิน จนถึงการสื่อสารลูกบ้านแบบดิจิทัล พร้อมต่อยอดด้วย AI และ Data Analytics รองรับการขยายบริการและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารลูกค้าจำนวนมาก

🔹 ขยายพอร์ตบริการตอบโจทย์ Urban Lifestyleบริษัทรุกขยายบริการใหม่หลากหลาย เช่น Pet Aging Wellness, DoorMart, บริการแม่บ้าน และตกแต่งภายใน เพื่อเจาะตลาด B2C และตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมือง โดยใช้ฐานลูกค้าอสังหาฯ ที่มีอยู่แล้วเป็นจุดตั้งต้น

🔹 รุกตลาดลูกค้าองค์กร-โครงการอสังหาฯ รายใหญ่PRI ขยายการทำงานกับลูกค้าอสังหาฯ รายใหญ่ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ผ่านการรับบริหารนิติบุคคล ออกแบบก่อสร้าง และบริการหลังการขาย แบบครบวงจร เสริมด้วยการใช้ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือที่สั่งสมมากกว่า 10 ปี

🔹 ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยแนวทาง ESG อย่างเป็นระบบบริษัทมีนโยบาย ESG ชัดเจน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม (ลดการใช้พลังงาน น้ำ และจัดการขยะ), สังคม (สิทธิมนุษยชน แรงงาน) และธรรมาภิบาล พร้อมผ่านการทวนสอบปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดย Bureau Veritas และมีเป้าหมายด้าน Net Zero ในอนาคต

🔹 ลงทุนในบุคลากรและธรรมาภิบาลเพื่อการเติบโตระยะยาว PRI มีการฝึกอบรมเฉลี่ย 24 ชั่วโมง/คน/ปี และตั้ง Academy ภายในกลุ่มเพื่อพัฒนาทักษะบริการเฉพาะทาง พร้อมยกระดับธรรมาภิบาลองค์กรอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายธุรกิจในฐานะ Holding ที่เน้นบริการอสังหาฯ อย่างครบวงจร

กราฟราคาหุ้น : PRI


** เพื่อนๆสามารถคลิ้กที่รูปกราฟ เพื่อติดตามข้อมูล RealTime ล่าสุดของวันนี้ได้นะ **

เว็บไซต์บริษัท :  PRI
56-1 รายงานประจำปี 2567 (Annual Report) : คลิ้กที่นี่เพื่อดาวน์โหลด

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

🔹 PRI มีรายได้หลักจากธุรกิจใด? รายได้หลักของ PRI มาจากธุรกิจบริการหลังการขายอสังหาริมทรัพย์ เช่น งานแม่บ้าน ตกแต่งภายใน และบริการลูกบ้าน คิดเป็น 48.20% ของรายได้รวมในปี 2567 ขณะที่กลุ่มบริหารนิติบุคคลและออกแบบ/ควบคุมงานก่อสร้างมีสัดส่วนรวมกันอีกกว่า 51%

🔹 จุดเด่นที่สุดที่ทำให้ PRI น่าสนใจคืออะไร? PRI มีจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญในธุรกิจบริการอสังหาฯ แบบครบวงจร โดยใช้โมเดล One Stop Service ผ่าน 18 บริษัทย่อยที่เชื่อมโยงกัน รองรับงานตั้งแต่ก่อนโอน-ระหว่างอยู่อาศัย-บริการเสริม พร้อมพัฒนาแพลตฟอร์ม Primo Plus และใช้เทคโนโลยี AI-Data เพื่อสร้างความแตกต่างในการให้บริการ

🔹 PRI มีแผนการเติบโตในอนาคตอย่างไร? บริษัทวางแผนขยายบริการใหม่ในกลุ่ม B2C เช่น DoorMart, Pet Wellness, บริการแม่บ้าน และค้าปลีกในโครงการ พร้อมลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อบริหารลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่แนวทาง ESG และเป้าหมายลดการพึ่งพิงภาคอสังหาฯ โดยตรง เพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาว

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

ซื้อหุ้น PRI ได้ที่ Liberator | ไม่มีขั้นต่ำ เซฟต้นทุนให้คุณตั้งแต่บาทแรก