สรุปหุ้น PIN : บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน)

PIN ประกอบธุรกิจพัฒนาและบริหารนิคมอุตสาหกรรมและพื้นที่โลจิสติกส์ พร้อมให้บริการเช่า-ขายโรงงานและคลังสินค้า โดยมีลูกค้าหลักเป็นบริษัทข้ามชาติในอุตสาหกรรมยานยนต์ โลหะ อิเล็กทรอนิกส์ และพลาสติก รวมกว่า 357 ราย (ญี่ปุ่น 54.3%) โดยรายได้หลักกว่า 93% มาจากการขายที่ดินภายในโครงการนิคมในเขต EEC ซึ่งมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับครบวงจรทั้งสาธารณูปโภคและ Logistics Park รวมพื้นที่กว่า 9,900 ไร่ พร้อมบริการ One Stop Service เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในระยะยาว


ข้อมูลเบื้องต้น

  ตลาดหลักทรัพย์ที่จดทะเบียน: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

  อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง:อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง / พัฒนาอสังหาริมทรัพย์

  SET ESG Ratings : -

  ขนาดบริษัท (Market Cap): 5,150.40 ล้านบาท

 ข้อมูลอัพเดท ณ วันที่ 18/06/68

 

สินค้า และ บริการ

กลุ่มธุรกิจ สินค้า/บริการหลัก รายละเอียด/กลุ่มเป้าหมาย บริษัทในเครือ
พัฒนาและขายที่ดิน พื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม สำหรับอุตสาหกรรมทั่วไป/เสรี ไม่มี
ให้เช่าที่ดิน/โรงงาน/คลังสินค้า Ready-Built / Built-to-suit โรงงานสำเร็จรูป, คลังสินค้า 6,000–10,000 ตร.ม. PLP
สาธารณูปโภคและบริการโครงสร้างพื้นฐาน ค่าน้ำ, ไฟ, บำบัดน้ำเสีย, Fiber ผู้ประกอบการในโครงการ PURE, PSP

PIN สร้างรายได้หลักจากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมที่บริษัทพัฒนาขึ้นเอง และต่อยอดสู่ธุรกิจให้เช่าโรงงาน/คลังสินค้าและบริการสาธารณูปโภคภายในโครงการ โดยมีบริการหลัก ได้แก่ การพัฒนาและจำหน่ายพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม การให้เช่าพื้นที่แบบ Ready-Built และ Built-to-Suit และบริการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น น้ำ ไฟ การบำบัดน้ำเสีย และไฟเบอร์ออปติก บริษัทมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทต่างชาติที่ต้องการพื้นที่ประกอบกิจการในเขต EEC และขยายขอบเขตธุรกิจด้วยการพัฒนา Logistics Park และระบบบริการครบวงจร (One Stop Service) พร้อมวางแผนเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำจากธุรกิจให้เช่าและบริการสาธารณูปโภคเพื่อบริหารความเสี่ยงจากรายได้ที่ผันผวนตามยอดขายที่ดิน

สัดส่วนรายได้จ

กลุ่มธุรกิจ/ผลิตภัณฑ์ รายได้ปี 2566 (ลบ.) สัดส่วน %  รายได้ปี 2567 (ลบ.) สัดส่วน %  การเปลี่ยนแปลง
ขายอสังหาริมทรัพย์ 2,629.74 91.43% 3,901.10 93.61% 🟩เพิ่มขึ้น 48.35%
ให้เช่าและบริการ 246.63 8.57% 266.28 6.39% 🟩เพิ่มขึ้น 7.97%
รวม 2,876.37 100% 4,167.38 100% 🟩เพิ่มขึ้น 44.88%

ากแต่ละธุรกิจ

ข้อมูลล่าสุดของปี 2567 จาก 56-1 ของบริษัท

**สามารถอัปเดตข้อมูลล่าสุดได้ คลิกที่นี่  Liberator -เทรดหุ้นไทย หุ้น US - Apps on Google Play

 

ความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน

🔹 โครงสร้างธุรกิจที่ครอบคลุมทั้งขายที่ดินและบริการต่อเนื่อง (Recurring Income)
+PIN มีโครงสร้างธุรกิจที่ผสมผสานระหว่างการพัฒนาและขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นรายได้หลัก และการให้เช่าอาคารโรงงาน/คลังสินค้า พร้อมบริการสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานภายในโครงการ เช่น ระบบน้ำ-ไฟ, Fiber Optic, ระบบบำบัดน้ำเสีย รวมถึงมีแผนขยาย Logistics Park เพื่อเพิ่มฐานรายได้ประจำในระยะยาว

🔹 ฐานรายได้มั่นคงจากตลาดในประเทศไทย 100%
+รายได้ทั้งหมดของ PIN มาจากการดำเนินงานในประเทศ โดยเฉพาะการขายที่ดินซึ่งคิดเป็น 93.6% ของรายได้ปี 2567 สะท้อนถึงการเป็นหนึ่งในผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมชั้นนำที่มีทำเลในเขต EEC ซึ่งเป็นศูนย์กลางการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมไทย

🔹 บริการครบวงจรสำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรม
+PIN ให้บริการแบบ One Stop Service แก่ลูกค้าภายในนิคม ตั้งแต่การจัดหาที่ดิน พัฒนาอาคาร ไปจนถึงการบริหารโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดในพื้นที่ มีระบบบริหารจัดการแบบมืออาชีพ พร้อมรองรับทั้งลูกค้ารายใหญ่จากญี่ปุ่น จีน และกลุ่มประเทศอาเซียน

🔹 นโยบาย ESG และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
+PIN มีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจน เช่น การจัดการน้ำและขยะ การควบคุมก๊าซเรือนกระจก โดยผ่านการทวนสอบจากหน่วยงานภายนอก และยึดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ พร้อมเปิดเผยนโยบายด้านความยั่งยืนต่อสาธารณะ

🔹 เติบโตพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงภาคอุตสาหกรรม
+PIN เตรียมพัฒนาโครงการใหม่อย่าง PIN 7 และ PIN 8 รวมกว่า 2,160 ไร่ พร้อมพัฒนา Smart Industrial Estate ที่ใช้ระบบ IoT, พลังงานสะอาด และบริการด้านเทคโนโลยี เพื่อรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมยุคใหม่และลดความเสี่ยงจากรายได้ผันผวนในอนาคต

ความเสี่ยงของธุรกิจและมาตราการการรับมือ

🔹 ความเสี่ยงจากความผันผวนของรายได้จากการขายที่ดิน

-ความเสี่ยง: รายได้หลักของ PIN มาจากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งมีลักษณะเป็นรายได้ครั้งเดียวและขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและการตัดสินใจลงทุนของลูกค้า หากมีการชะลอตัวของภาคอุตสาหกรรมหรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายรัฐ อาจกระทบต่อรายได้อย่างมีนัยสำคัญในแต่ละปี

+มาตรการการรับมือ: บริษัทเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) จากการให้เช่าโรงงาน คลังสินค้า และค่าบริการสาธารณูปโภค พร้อมทั้งพัฒนา Logistics Park เพื่อสร้างรายได้ระยะยาวที่มั่นคงมากขึ้น

🔹 ความเสี่ยงจากการแข่งขันในธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม

-ความเสี่ยง: การแข่งขันจากนิคมอื่นในเขต EEC และนิคมของภาครัฐ เช่น กนอ. อาจส่งผลให้ต้องแข่งขันด้านราคาที่ดินและสิทธิประโยชน์ที่เสนอให้กับนักลงทุน

+มาตรการการรับมือ: PIN เน้นสร้างจุดขายผ่านทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ ระบบสาธารณูปโภคที่ครบวงจร และบริการ One Stop Service รวมถึงพัฒนานิคมให้ทันสมัยด้วยแนวคิด Smart Industrial Estate เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง

🔹 ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี

-ความเสี่ยง: แนวโน้มการใช้พลังงานสะอาด, ระบบอัตโนมัติ และอุตสาหกรรมยุคใหม่ อาจเปลี่ยนความต้องการใช้พื้นที่โรงงานแบบดั้งเดิม รวมถึงเพิ่มความต้องการเทคโนโลยีขั้นสูง

+มาตรการการรับมือ: บริษัทพัฒนาโครงการใหม่อย่าง PIN 7–8 พร้อมรองรับอุตสาหกรรมยุคใหม่ด้วยเทคโนโลยี IoT, EV Infrastructure และพลังงานสะอาด พร้อมปรับรูปแบบพื้นที่ให้ยืดหยุ่นตามความต้องการของลูกค้า

🔹 ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงกฎหมายและนโยบายภาครัฐ

-ความเสี่ยง: กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ที่ดิน, สิ่งแวดล้อม, ผังเมือง หรือการส่งเสริมการลงทุน อาจเปลี่ยนแปลงได้และส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานหรือต้นทุนของโครงการ

+มาตรการการรับมือ: PIN มีทีมงานติดตามและวิเคราะห์นโยบายรัฐอย่างใกล้ชิด พร้อมปรับแผนพัฒนาโครงการให้สอดคล้องกับข้อกำหนดใหม่ และใช้ความสัมพันธ์ที่ดีกับหน่วยงานรัฐในการประสานงาน

🔹 ความเสี่ยงด้าน ESG และผลกระทบสิ่งแวดล้อมในพื้นที่นิคม

-ความเสี่ยง: การดำเนินงานในนิคมขนาดใหญ่ต้องเผชิญกับความคาดหวังด้านสิ่งแวดล้อมจากภาครัฐและชุมชน เช่น การจัดการน้ำเสีย ก๊าซเรือนกระจก และของเสียอันตราย

+มาตรการการรับมือ: PIN มีระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมครบวงจร พร้อมผ่านการทวนสอบคาร์บอนฟุตพริ้นต์จากมหาวิทยาลัยพะเยา และมีแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการจัดการขยะอย่างต่อเนื่อง

โครงการในอนาคต

🔹 ขยายศักยภาพด้านนิคมอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์สมัยใหม่ PIN เดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ ได้แก่ PIN 7 และ PIN 8 รวมพื้นที่กว่า 2,160 ไร่ ในทำเลยุทธศาสตร์ของเขต EEC เพื่อรองรับอุตสาหกรรมอนาคต พร้อมขยาย Logistics Park เพิ่มพื้นที่ให้เช่าคลังสินค้า และเตรียมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการเปลี่ยนผ่านด้านอุตสาหกรรมยุคใหม่ เช่น EV, พลังงานสะอาด และ IoT

🔹 เพิ่มฐานลูกค้าและยกระดับบริการ One Stop Service บริษัทตั้งเป้าดึงดูดกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ เช่น ญี่ปุ่น จีน และอาเซียน ผ่านจุดแข็งด้านทำเล สาธารณูปโภคครบวงจร และบริการ One Stop Service ที่ครอบคลุมตั้งแต่การยื่น BOI การพัฒนาอาคาร ไปจนถึงระบบสนับสนุนด้านเอกสาร ภาษี และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในธุรกิจนิคม

🔹 ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ PIN มีแผนพัฒนา Smart Industrial Estate โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น ระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศ, EV Charging Infrastructure, Fiber Optic Internet, ระบบบำบัดน้ำอัจฉริยะ และการบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมยุคใหม่และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ประกอบการ

🔹 ลงทุนในระบบธรรมาภิบาลและการบริหารความเสี่ยงระดับองค์กร บริษัทเสริมสร้างระบบกำกับดูแลและบริหารความเสี่ยงที่ครอบคลุมการดำเนินงานของทุกโครงการ โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการใหม่ที่มีขนาดใหญ่ พร้อมยกระดับการเปิดเผยข้อมูล ความโปร่งใส และการมีส่วนร่วมของกรรมการอิสระในการกำหนดทิศทางกลยุทธ์และอนุมัติโครงการลงทุน

🔹 ยกระดับมาตรฐาน ESG ครอบคลุมทุกมิติภายในปี 2568 PIN มีนโยบายความยั่งยืนที่ชัดเจน ทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม (การจัดการน้ำ ขยะ ก๊าซเรือนกระจก), มิติสังคม (ส่งเสริมสิทธิแรงงาน, การฝึกอบรมพนักงาน), และมิติธรรมาภิบาล (ความโปร่งใส, การต่อต้านคอร์รัปชัน) โดยตั้งเป้าทบทวนและพัฒนาระบบ ESG อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนสถาบันและพันธมิตรระยะยาว

กราฟราคาหุ้น : PIN


** เพื่อนๆสามารถคลิ้กที่รูปกราฟ เพื่อติดตามข้อมูล RealTime ล่าสุดของวันนี้ได้นะ **

เว็บไซต์บริษัท :  PIN
56-1 รายงานประจำปี 2567 (Annual Report) : คลิ้กที่นี่เพื่อดาวน์โหลด

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

🔹 รายได้หลักของ PIN มาจากธุรกิจใด? รายได้หลักของ PIN มาจากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 93.6% ของรายได้รวมในปี 2567 โดยทั้งหมดมาจากลูกค้าที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย 100% ส่วนรายได้จากการให้เช่าและบริการต่าง ๆ เช่น คลังสินค้า โรงงาน และระบบสาธารณูปโภค มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเพื่อสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ที่มั่นคงในอนาคต

🔹 จุดเด่นที่สุดที่ทำให้ PIN น่าสนใจคืออะไร? PIN มีจุดแข็งที่โดดเด่นด้าน ทำเลที่ตั้งในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง สนามบินอู่ตะเภา และโครงสร้างพื้นฐานหลักของประเทศ ทำให้เหมาะกับการเป็นฐานการผลิตและโลจิสติกส์ของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะจากญี่ปุ่นและจีน นอกจากนี้ บริษัทยังให้บริการแบบ One Stop Service สำหรับนักลงทุน และมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย เช่น ระบบบำบัดน้ำเสีย Fiber Optic และ EV Station ทำให้สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม

🔹 PIN มีแผนการเติบโตในอนาคตอย่างไร? PIN มีแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องผ่านการพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรมใหม่ เช่น PIN 7 และ PIN 8 รวมพื้นที่กว่า 2,160 ไร่ พร้อมขยาย Logistics Park เพื่อรองรับคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าในอนาคต บริษัทมุ่งสู่การเป็น Smart Industrial Estate ที่ผสานเทคโนโลยีและพลังงานสะอาด พร้อมเพิ่มสัดส่วนรายได้จากค่าเช่าและบริการ (Recurring Income) เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว รวมถึงวางเป้าหมายยกระดับมาตรฐาน ESG อย่างครบถ้วนภายในปี 2568

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

 
ซื้อหุ้น PIN ได้ที่ Liberator | ไม่มีขั้นต่ำ เซฟต้นทุนให้คุณตั้งแต่บาทแรก