สรุปหุ้น NRF : บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน)

NRF เป็นโฮลดิ้งด้านอาหารและเครื่องปรุงสำเร็จรูป มุ่งพัฒนาสินค้า Ethnic Food, Plant-Based และ E-commerce ทั้งในรูปแบบ OEM และแบรนด์ของตัวเอง มีจุดแข็งด้านการผลิตมาตรฐานสากล การเข้าใจผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม และการขายผ่านช่องทางออนไลน์ เดินหน้าสู่ Tech-Food Company ด้วยแนวทางความยั่งยืนและการลดคาร์บอนเป็นหลัก.


ข้อมูลเบื้องต้น

  ตลาดหลักทรัพย์ที่จดทะเบียน: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

  อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง: เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร / อาหารและเครื่องดื่ม

  SET ESG Ratings : -

  ขนาดบริษัท (Market Cap): 538.71 ล้านบาท

 ข้อมูลอัพเดท ณ วันที่ 18/07/68

 

สินค้า และ บริการ

กลุ่มธุรกิจ สินค้า/บริการหลัก รายละเอียด/กลุ่มเป้าหมาย
บริษัทในเครือ (ถ้ามี)
Ethnic Food น้ำพริก เครื่องแกง ข้าวสาร บะหมี่ กลุ่มลูกค้าต่างประเทศที่ชื่นชอบอาหารเอเชีย
Plant and Bean, Por Kwan
OEM / Private Label อาหารพร้อมทานและปรุงอาหาร OEM ซูเปอร์มาร์เก็ตต่างประเทศ เช่น Walmart, Tesco -
Pet Food อาหารสัตว์เลี้ยงจากพืช ตลาดสัตว์เลี้ยงที่รักสิ่งแวดล้อม
บริษัท JV ในสหรัฐฯ (66.67%)
E-Commerce ขายผ่าน Boosted NRF, Amazon แบรนด์ Sabzu, Classic Thai
Boosted NRF Corp.
Plant-Based โปรตีนจากพืช เช่น Burger, Patty กลุ่มผู้บริโภคสาย Clean และ Climate-friendly Plant and Bean

NRF สร้างรายได้หลักจากการถือหุ้นในธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุง และโปรตีนจากพืช โดยมีฐานรายได้จากทั้ง OEM และแบรนด์ของตนเอง ขยายพอร์ตผ่านบริษัทในเครือด้าน Ethnic Food, Plant-Based และ E-commerce พร้อมรุกตลาดส่งออกและสร้างแบรนด์ระดับโลก เดินหน้าพัฒนาโรงงานและระบบผลิตที่ยั่งยืน เพื่อลดคาร์บอน เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้น บนพื้นฐานความเชี่ยวชาญด้านอาหารและการบริหารแบบมืออาชีพ.

สัดส่วนรายได้จากแต่ละธุรกิจ

กลุ่มธุรกิจ 2566 (ลบ.) สัดส่วน % 2567 (ลบ.) สัดส่วน % การเปลี่ยนแปลง
อาหารและอาหารสัตว์เลี้ยง 1,850.09 60.09% 2,300.16 51.27% 🟩เพิ่มขึ้น 24.33%
จัดจำหน่ายถึงผู้บริโภคโดยตรง 855.89 27.80% 1,311.41 29.23% 🟩เพิ่มขึ้น 53.22%
ผลิตภัณฑ์พร้อมรับมือสภาพอากาศ 213.91 6.95% 223.8 4.99% 🟩เพิ่มขึ้น 4.62%
อื่นๆ 158.78 5.16% 650.81 14.51% 🟩เพิ่มขึ้น 309.88%
รวม 3,078.68 100% 4,486.18 100% 🟩เพิ่มขึ้น 45.72%

ข้อมูลล่าสุดของปี 2567 จาก 56-1 ของบริษัท

**สามารถอัปเดตข้อมูลล่าสุดได้ คลิกที่นี่  Liberator -เทรดหุ้นไทย หุ้น US - Apps on Google Play

 

ความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน

🔹 ฐานรายได้หลักจากธุรกิจอาหารและส่งออก

+NRF สร้างรายได้หลักจากการถือหุ้นในกลุ่มบริษัทด้านการผลิตและจำหน่ายอาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุง อาหารมังสวิรัติ และโปรตีนจากพืช โดยมีทั้งกลุ่ม OEM และแบรนด์ของตนเอง รายได้หลักในปี 2567 มาจากกลุ่มอาหารและอาหารสัตว์เลี้ยง 51.3% และการจัดจำหน่ายโดยตรงถึงผู้บริโภค 29.2% โดยรายได้จากต่างประเทศเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ คิดเป็น 40.1% ของรายได้รวม สะท้อนการขยายตลาดอย่างต่อเนื่องในระดับสากล

🔹 จุดแข็งด้านมาตรฐานการผลิตและความเข้าใจตลาดเฉพาะกลุ่ม

+ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจ OEM และ Ethnic Food บริษัทมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดเฉพาะ ทั้งในแง่รสชาติและมาตรฐานสากล เช่น BRC, IFS, HALAL อีกทั้งยังมีช่องทางการขายที่หลากหลาย ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ผ่าน E-Commerce อย่าง Boosted NRF ซึ่งเสริมศักยภาพการแข่งขันในยุคดิจิทัล

🔹 ความสามารถในการปรับตัวและขยายพอร์ตสู่สินค้าความยั่งยืน

+NRF แสดงศักยภาพในการปรับตัวตามเทรนด์ผู้บริโภค โดยเน้นลงทุนในธุรกิจอาหารแห่งอนาคต เช่น Plant-Based ผ่านบริษัทในเครือ Plant and Bean และ Joint Venture กับพันธมิตรในต่างประเทศ พร้อมวางแผนขยายกำลังการผลิตและลงทุนในโรงงาน Negative Emission เพื่อรองรับความต้องการอาหารที่ยั่งยืนในอนาคต

🔹 โอกาสเติบโตจากแบรนด์ระดับโลกและการยกระดับเป็น Tech-Food Company

+แม้ตลาดอาหารมีการแข่งขันสูง NRF ยังมีโอกาสเติบโตจากการสร้างแบรนด์ของตนเองเพื่อส่งออกสู่ตลาดโลก และการเดินหน้าเป็น Tech-Food Company ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีสนับสนุนการผลิต การตลาด และโลจิสติกส์ บริษัทมุ่งสู่ความยั่งยืนด้วยการลดการปล่อยคาร์บอนและใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและสร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้นในระยะยาว

ความเสี่ยงของธุรกิจและมาตราการการรับมือ

🔹 ความเสี่ยงจากการพึ่งพาธุรกิจอาหารเป็นหลัก

-ความเสี่ยง: รายได้ของ NRF ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจอาหาร โดยเฉพาะกลุ่ม Ethnic Food และ OEM หากความต้องการในตลาดส่งออกลดลง หรือเกิดเหตุการณ์ที่กระทบซัพพลายเชน เช่น ภัยพิบัติหรือข้อจำกัดด้านการค้า อาจส่งผลต่อยอดขายและผลประกอบการโดยตรง

+มาตรการการรับมือ: บริษัทได้กระจายพอร์ตสินค้าสู่ Plant-Based, E-commerce และตลาดภายในประเทศมากขึ้น พร้อมทั้งขยายกลุ่มลูกค้าและช่องทางจำหน่าย เพื่อไม่ให้พึ่งพารายได้จากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากเกินไป

🔹 ความเสี่ยงจากการแข่งขันสูงในอุตสาหกรรมอาหารและ E-Commerce

-ความเสี่ยง: ตลาดอาหารแปรรูปและ Plant-Based มีผู้เล่นจำนวนมากทั่วโลก ทำให้การแข่งขันด้านราคา คุณภาพ และนวัตกรรมค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในช่องทางออนไลน์

+มาตรการการรับมือ: NRF เน้นพัฒนาแบรนด์ที่แข็งแรง เช่น Sabzu และ Classic Thai พร้อมใช้ E-commerce Platform ของตนเองผ่าน Boosted NRF และเสริมความสามารถในการทำการตลาดแบบ Digital เพื่อรักษาฐานลูกค้าและขยายการเข้าถึงตลาดใหม่

🔹 ความเสี่ยงจากความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบ

-ความเสี่ยง: วัตถุดิบสำคัญ เช่น เครื่องเทศ พืชโปรตีน หรือบรรจุภัณฑ์ อาจมีราคาผันผวนตามฤดูกาลหรือภาวะเศรษฐกิจ ส่งผลต่อ margin และความสามารถในการแข่งขัน

+มาตรการการรับมือ: บริษัทมีแผนจัดซื้อวัตถุดิบระยะยาว เจรจาสัญญาแบบล่วงหน้า และมีการสำรองวัตถุดิบสำคัญ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตเพื่อลดผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

🔹 ความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของกฎระเบียบการค้า

-ความเสี่ยง: การส่งออกสินค้าของบริษัทอาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายในประเทศปลายทาง เช่น กฎด้านอาหารปลอดภัย ภาษี หรือมาตรการกีดกันทางการค้า

+มาตรการการรับมือ: NRF ติดตามกฎระเบียบของประเทศคู่ค้าอย่างใกล้ชิด มีทีมกฎหมายและที่ปรึกษาในต่างประเทศ และพัฒนาสินค้าให้ผ่านมาตรฐานสากล เช่น BRC, IFS, HALAL อย่างต่อเนื่อง

🔹 ความเสี่ยงด้านการบริหารโครงการขนาดใหญ่และเทคโนโลยี

-ความเสี่ยง: การลงทุนในโรงงานใหม่ หรือโครงการเทคโนโลยี เช่น Plant-Based Negative Emission Plant มีความเสี่ยงด้านงบประมาณ เวลา และการบริหารจัดการ

+มาตรการการรับมือ: บริษัทมีคณะกรรมการด้านการลงทุนและการบริหารความเสี่ยงคอยกำกับดูแลโครงการ พร้อมวางแผนการเงินและการประเมินความคุ้มค่าก่อนลงทุน เพื่อควบคุมต้นทุนและลดความเสี่ยงจากการดำเนินงานไม่เป็นไปตามแผน

โครงการในอนาคต

🔹 พัฒนาศักยภาพการผลิตและต่อยอดทรัพยากรที่มีอยู่ NRF เดินหน้าขยายกำลังการผลิต โดยเตรียมลงทุนในโรงงานใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี Negative Emission เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขณะเดียวกัน ยังเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ เช่น พัฒนาโรงงานเดิมให้รองรับผลิตภัณฑ์ Plant-Based และสินค้านวัตกรรมใหม่ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและขยายฐานรายได้ระยะยาว

🔹 ขยายตลาดส่งออกและสร้างแบรนด์ในระดับโลกจากฐานรายได้ต่างประเทศที่เติบโตเกิน 40% ในปีล่าสุด NRF มีแผนต่อยอดแบรนด์ของตนเองสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และเอเชียตะวันออก ผ่านช่องทาง E-commerce, Distributor และพันธมิตรท้องถิ่น เพื่อสร้างความแข็งแรงด้านรายได้ และลดความผันผวนจากตลาดในประเทศ

🔹 ลงทุนด้านเทคโนโลยีอาหารเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันบริษัทเดินหน้าพัฒนาเป็น Tech-Food Company โดยลงทุนใน Plant-Based Protein Technology และระบบ Digital Marketing Automation ผ่าน Boosted NRF เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการขายแบบ B2C และลดต้นทุนการตลาด พร้อมใช้ข้อมูลผู้บริโภคสนับสนุนการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่

🔹 พัฒนาแนวคิดการผลิตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม NRF ให้ความสำคัญกับการจัดการพลังงานในโรงงาน เช่น ลดการใช้ไฟฟ้าและเชื้อเพลิงฟอสซิล พร้อมทั้งจัดการของเสียตามหลัก Zero Waste และรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยได้รับการทวนสอบจากหน่วยงานอิสระ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคและนักลงทุนที่ใส่ใจ ESG

🔹 ยกระดับธรรมาภิบาลและการพัฒนาทีมผู้บริหารบริษัทมีคณะกรรมการความเสี่ยงและความยั่งยืนดูแลเฉพาะด้าน และให้ความสำคัญกับการพัฒนาทีมผู้บริหาร โดยมุ่งเน้นทักษะด้านบริหารการลงทุน การเงิน กลยุทธ์การตลาด และการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศ เพื่อรองรับการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว

กราฟราคาหุ้น : NRF


** เพื่อนๆสามารถคลิ้กที่รูปกราฟ เพื่อติดตามข้อมูล RealTime ล่าสุดของวันนี้ได้นะ **

เว็บไซต์บริษัท :  NRF
56-1 รายงานประจำปี 2567 (Annual Report) : คลิ้กที่นี่เพื่อดาวน์โหลด

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

🔹 NRF มีรายได้หลักจากธุรกิจใด? รายได้หลักของ NRF มาจากการผลิตและจำหน่ายอาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุง อาหารสัตว์เลี้ยง และโปรตีนจากพืช โดยในปี 2567 กลุ่มธุรกิจอาหารและอาหารสัตว์เลี้ยงคิดเป็น 51.3% ของรายได้รวม และกลุ่มจัดจำหน่ายถึงผู้บริโภคโดยตรง (Direct-to-Consumer) คิดเป็น 29.2% ส่วนรายได้จากต่างประเทศเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ คิดเป็น 40.1% ของรายได้รวม

🔹 จุดเด่นที่สุดที่ทำให้ NRF น่าสนใจคืออะไร? NRF มีจุดเด่นด้านความสามารถในการผลิตอาหารที่ได้มาตรฐานสากล และมีความเชี่ยวชาญในตลาดเฉพาะ เช่น Ethnic Food และ Plant-Based Food บริษัทมีทั้ง OEM และแบรนด์ของตนเอง พร้อมช่องทางขายที่หลากหลายรวมถึง E-commerce และการส่งออก โดยเน้นขยายตลาดผ่านนวัตกรรมอาหารและแนวคิด Clean Food Tech ควบคู่กับแนวทาง ESG อย่างจริงจัง

🔹 NRF มีแผนการเติบโตในอนาคตอย่างไร? จาก One Report 2567 NRF วางแผนขยายกำลังการผลิตโดยลงทุนในโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีลดการปล่อยคาร์บอน พร้อมพัฒนาแบรนด์ของตนเองสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ และยุโรป รวมถึงต่อยอดสินค้านวัตกรรม เช่น โปรตีนจากพืช และพัฒนาแพลตฟอร์มขายออนไลน์ผ่าน Boosted NRF บริษัทมุ่งสู่การเป็น Tech-Food Company ที่ใช้ดิจิทัลและข้อมูลผู้บริโภคเป็นเครื่องมือสำคัญในการเติบโต

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

 
ซื้อหุ้น NRF ได้ที่ Liberator | ไม่มีขั้นต่ำ เซฟต้นทุนให้คุณตั้งแต่บาทแรก