สรุปหุ้น NER : บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน)

NER ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางพาราแปรรูปครบวงจร ได้แก่ ยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน และยางผสม เพื่อส่งมอบให้กับผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์และผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศ รายได้หลักมาจากการขายยางธรรมชาติในประเทศไทย ซึ่งคิดเป็นกว่า 70% ของรายได้รวม ลูกค้าหลักคือผู้ประกอบการที่ต้องการวัตถุดิบยางพาราเพื่อนำไปใช้ในกระบวนการผลิต จุดแข็งของบริษัทอยู่ที่การควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและความสามารถในการรักษาส่วนแบ่งตลาดในประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง


ข้อมูลเบื้องต้น

  ตลาดหลักทรัพย์ที่จดทะเบียน: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

  อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง: เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร / ธุรกิจการเกษตร

  SET ESG Ratings : A

  ขนาดบริษัท (Market Cap): 7,465.07 ล้านบาท

 ข้อมูลอัพเดท ณ วันที่ 17/06/68

 

สินค้า และ บริการ

กลุ่มธุรกิจ สินค้า/บริการหลัก รายละเอียด/กลุ่มเป้าหมาย
ยางธรรมชาติ ยางแท่ง, ยางรมควัน, ยางผสม อุตสาหกรรมยานยนต์, ผู้ค้าคนกลาง
ผลิตภัณฑ์แปรรูป แผ่นยางพาราปูพื้น ผู้ใช้ทั่วไป/ตกแต่ง/อุตสาหกรรมอื่นๆ

NER สร้างรายได้หลักจากการผลิตและจำหน่ายยางพาราธรรมชาติ เช่น ยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน และยางผสม ให้แก่ผู้ผลิตยางรถยนต์และผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีโรงงานหลักอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ บริษัทมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและลงทุนใน R&D อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มคุณภาพสินค้า บริหารต้นทุน และรับมือกับความผันผวนของอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สัดส่วนรายได้จากแต่ละธุรกิจ

กลุ่มธุรกิจ รายได้ปี 2566 (ลบ.) สัดส่วน % รายได้ปี 2567 (ลบ.) สัดส่วน % การเปลี่ยนแปลง
ยางธรรมชาติ 25,040.91 99.90% 27,445.24 99.81% 🟩เพิ่มขึ้น 9.60%
แผ่นยางพาราปูพื้น 4.26 0.02% 3.1 0.01% 🟥ลดลง -27.23%
อื่นๆ 20.54 0.08% 47.83 0.17% 🟩เพิ่มขึ้น 132.86%
รวม 25,065.71 100% 27,496.16 100% 🟩เพิ่มขึ้น 9.70%

ข้อมูลล่าสุดของปี 2567 จาก 56-1 ของบริษัท

**สามารถอัปเดตข้อมูลล่าสุดได้ คลิกที่นี่  Liberator -เทรดหุ้นไทย หุ้น US - Apps on Google Play

 

ความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน

🔹 โครงสร้างธุรกิจยางพาราที่ครบวงจรและมุ่งเน้นอุตสาหกรรมหลัก
+NER มีโครงสร้างธุรกิจที่เน้นการผลิตและจำหน่ายยางพาราธรรมชาติทั้งในรูปแบบยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม โดยรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์และตลาดผู้ค้าคนกลาง ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานและการควบคุมคุณภาพจากโรงงานหลักใน จ.บุรีรัมย์

🔹 ฐานรายได้ในประเทศแข็งแกร่งและเติบโตต่อเนื่อง
+ในปี 2567 รายได้ของ NER มาจากลูกค้าในประเทศไทยสูงถึง 74.68% และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง สะท้อนถึงการมีฐานลูกค้าในประเทศที่มั่นคง และความสามารถในการขยายตลาดภายในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

🔹 การพัฒนาเทคโนโลยีและการผลิตอย่างต่อเนื่อง
+NER ลงทุนอย่างต่อเนื่องในระบบการผลิตและการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยใช้งบ R&D เพิ่มขึ้นจาก 1.5 ล้านบาทในปี 2565 เป็น 4.4 ล้านบาทในปี 2567 เพื่อยกระดับคุณภาพสินค้าและสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน

🔹 แนวทางบริหาร ESG และธรรมาภิบาลที่ชัดเจน
+NER มีนโยบายและแนวทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลที่ชัดเจน เช่น การบริหารจัดการพลังงาน การใช้ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งดำเนินธุรกิจภายใต้จรรยาบรรณและธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด

🔹 การบริหารความเสี่ยงรอบด้านรองรับความผันผวน
+NER มีระบบบริหารความเสี่ยงที่ครอบคลุมทั้งด้านกลยุทธ์ การผลิต การเงิน และกฎหมาย รวมถึงความเสี่ยงใหม่ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี หรือกฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อมของ EU (EUDR) โดยมีมาตรการป้องกันและติดตามอย่างใกล้ชิด

ความเสี่ยงของธุรกิจและมาตราการการรับมือ

🔹 ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคายางธรรมชาติ

-ความเสี่ยง: ราคายางพาราเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ผันผวนตามกลไกตลาดโลก ส่งผลโดยตรงต่อรายได้และความสามารถในการทำกำไรของบริษัท หากราคายางลดลงอาจกระทบต่อรายได้ทันที

+มาตรการการรับมือ: NER ใช้กลยุทธ์กระจายความเสี่ยงด้านราคา เช่น การทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และบริหารต้นทุนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อคงความสามารถในการแข่งขันในทุกสภาวะราคา

🔹 ความเสี่ยงจากการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมยางพารา

-ความเสี่ยง: อุตสาหกรรมมีการแข่งขันสูง ทั้งจากผู้ผลิตในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงความสามารถในการตั้งราคาที่อาจถูกกดดันจากตลาด

+มาตรการการรับมือ: บริษัทเน้นพัฒนาคุณภาพสินค้า รักษามาตรฐานการผลิต และสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าเพื่อเสริมความภักดีในแบรนด์ 

🔹 ความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดส่งออก

-ความเสี่ยง: แม้สัดส่วนรายได้ในประเทศจะเพิ่มขึ้น แต่ NER ยังพึ่งพาการส่งออก โดยเฉพาะตลาดจีนและสิงคโปร์ หากเกิดปัญหาทางการค้า/โลจิสติกส์ อาจส่งผลต่อรายได้

+มาตรการการรับมือ: ขยายตลาดในประเทศอย่างต่อเนื่อง เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ และพัฒนาเครือข่ายโลจิสติกส์เพื่อลดการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไป

🔹 ความเสี่ยงจากข้อกำหนดสิ่งแวดล้อมและกฎระเบียบใหม่ เช่น EUDR

-ความเสี่ยง: ข้อบังคับจากต่างประเทศ เช่น กฎหมาย EUDR ของสหภาพยุโรป อาจเพิ่มต้นทุนการดำเนินงาน หรือจำกัดการเข้าถึงตลาด

+มาตรการการรับมือ: NER มีการติดตามข้อกำหนดอย่างใกล้ชิด พร้อมปรับกระบวนการผลิตและเอกสารให้สอดคล้องกับมาตรฐานใหม่ รวมถึงมีระบบตรวจสอบย้อนกลับเพื่อรองรับข้อกำหนดสิ่งแวดล้อมในอนาคต

🔹 ความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

-ความเสี่ยง: ภัยแล้งหรืออุทกภัยอาจส่งผลต่อการผลิตวัตถุดิบยางพารา รวมถึงกระทบกระบวนการผลิตของโรงงาน

+มาตรการการรับมือ: บริษัทมีระบบจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมในแผนการผลิตเพื่อวางแผนป้องกันล่วงหน้า

 

โครงการในอนาคต

🔹 เสริมประสิทธิภาพการดำเนินงานด้วยเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมNER มีแผนพัฒนาเทคโนโลยีในกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง เช่น การปรับปรุงระบบควบคุมการใช้พลังงานและน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการวางแผนเชิงกลยุทธ์เพื่อให้โรงงานมีความยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศและต้นทุนพลังงานในอนาคต

🔹 ขยายตลาดในประเทศและสร้างเสถียรภาพด้านรายได้บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนลูกค้าในประเทศอย่างต่อเนื่อง หลังจากสัดส่วนรายได้ในประเทศเพิ่มจาก 64.95% (ปี 2566) เป็น 74.68% (ปี 2567) ด้วยการใช้ความสัมพันธ์เชิงลึกกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์และผู้ค้าคนกลาง เป็นฐานรายได้ที่มั่นคง

🔹 ยกระดับระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยNER มุ่งลงทุนในระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ได้มาตรฐาน เช่น ระบบจัดการน้ำเสีย การจัดการของเสียอันตราย และระบบประเมินผลกระทบจากก๊าซเรือนกระจก พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของพนักงานด้วยระบบฝึกซ้อมความปลอดภัยและการพัฒนาทักษะ

🔹 สร้างแนวทางการบริหารความเสี่ยงเชิงรุกและยั่งยืนบริษัทพัฒนาโครงสร้างความเสี่ยงในทุกระดับขององค์กร โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของราคายางพาราและการจัดซื้อวัตถุดิบจากเกษตรกรรายย่อย พร้อมตั้งคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงเพื่อกลั่นกรองนโยบายเชิงกลยุทธ์อย่างรอบคอบ

🔹 ตั้งเป้ายกระดับ ESG อย่างครอบคลุมภายในปี 2568NER วางเป้าหมายยกระดับแนวปฏิบัติ ESG ทั้งในมิติสภาพแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ให้ครอบคลุมถึงทุกสายธุรกิจของบริษัท เช่น การเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมในรายงานประจำปี การวางระบบกำกับดูแลสำหรับโรงงาน และการปรับโครงสร้างคณะกรรมการให้มีความเป็นอิสระมากขึ้น

กราฟราคาหุ้น : NER


** เพื่อนๆสามารถคลิ้กที่รูปกราฟ เพื่อติดตามข้อมูล RealTime ล่าสุดของวันนี้ได้นะ **

เว็บไซต์บริษัท :  NER
56-1 รายงานประจำปี 2567 (Annual Report) : คลิ้กที่นี่เพื่อดาวน์โหลด

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

🔹 รายได้หลักของ NER มาจากธุรกิจใด? รายได้หลักของ NER มาจากการจำหน่าย ยางธรรมชาติแปรรูป ได้แก่ ยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน และยางผสม โดยในปี 2567 คิดเป็น 99.81% ของรายได้รวม ซึ่งมาจากลูกค้าในประเทศเป็นหลัก (74.68%) โดยเน้นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และผู้ค้าคนกลางในตลาดภายในประเทศและส่งออกไปยังประเทศหลัก เช่น จีนและสิงคโปร์

🔹 จุดเด่นที่สุดที่ทำให้บริษัทน่าสนใจคืออะไร? จุดแข็งของ NER คือความเชี่ยวชาญในธุรกิจยางพาราที่ต่อเนื่องและลึกซึ้ง โครงสร้างต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการรักษาฐานลูกค้าในประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทมีการดำเนินงานภายใต้กรอบ ESG ที่ครอบคลุมทั้งสิ่งแวดล้อมและธรรมาภิบาล พร้อมระบบควบคุมความเสี่ยงด้านราคาวัตถุดิบและการผลิตที่สามารถปรับตัวได้ตามสถานการณ์

🔹 บริษัทมีแผนการเติบโตในอนาคตอย่างไร? NER มีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น พร้อมส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน รวมถึงการขยายตลาดในประเทศผ่านความสัมพันธ์เชิงลึกกับลูกค้าอุตสาหกรรม ในขณะเดียวกันก็มุ่งยกระดับมาตรฐาน ESG ภายในองค์กรให้ครอบคลุมทุกด้านภายในปี 2568 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและรองรับความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยางพาราทั้งในประเทศและระดับโลก

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

 
ซื้อหุ้น NER ได้ที่ Liberator | ไม่มีขั้นต่ำ เซฟต้นทุนให้คุณตั้งแต่บาทแรก