สรุปหุ้น LHHOTEL : ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล

SABINA เป็นผู้นำธุรกิจชุดชั้นในสตรีครบวงจร มุ่งสู่การเป็น “Total Lingerie Solutions Provider” ด้วยการออกแบบสินค้าที่ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่ม ผสานแฟชั่นกับฟังก์ชัน ใช้ระบบ Lean Manufacturing และ Data-Driven Marketing จุดแข็งคือแบรนด์ที่แข็งแกร่งในไทย การควบคุมการผลิตเอง และความร่วมมือระยะยาวกับคู่ค้ารายใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมแผนขยายตลาดสู่ CLMV อย่างต่อเนื่อง


ข้อมูลเบื้องต้น

  ตลาดหลักทรัพย์ที่จดทะเบียน: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

  อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง: อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง / กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

  SET ESG Ratings : -

  ขนาดบริษัท (Market Cap): 11,747.90 ล้านบาท

 ข้อมูลอัพเดท ณ วันที่ 27/06/68

 

สินค้า และ บริการ

กลุ่มธุรกิจ สินค้า/บริการหลัก รายละเอียด/กลุ่มเป้าหมาย บริษัทในเครือ
โรงแรม สิทธิการเช่าโรงแรม Grand Centre Point กลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยว upscale ทั้งไทยและต่างชาติ
แอล แอนด์ เอช โฮเทล แมเนจเมนท์ จำกัด

LHHOTEL สร้างรายได้หลักจากการให้เช่าสิทธิการเช่าโรงแรมในเครือ Grand Centre Point ในทำเลสำคัญทั้งกรุงเทพฯ และพัทยา พร้อมรับโอกาสเติบโตจากค่าเช่าแปรผันตามผลประกอบการโรงแรม โดยใช้สัญญาเช่าระยะยาวและการันตีค่าเช่าคงที่เพื่อสร้างความมั่นคงและรองรับการเติบโตในระยะยาว.

สัดส่วนรายได้จากแต่ละธุรกิจ

กลุ่มธุรกิจ/ผลิตภัณฑ์ รายได้ปี 2566 (ล้านบาท) สัดส่วน % รายได้ปี 2567 (ล้านบาท) สัดส่วน % การเปลี่ยนแปลง
รายได้ค่าเช่า 1,320.81 ~100% 2,351.35 ~100% 🟩เพิ่มขึ้น 78.02%
รายได้อื่น ๆ 4.65 <1% 1.55 <1% 🟥ลดลง -66.67%
รวม 1,325.46 100% 2,352.90 100% 🟩เพิ่มขึ้น 77.52%

ข้อมูลล่าสุดของปี 2567 จาก 56-1 ของบริษัท

**สามารถอัปเดตข้อมูลล่าสุดได้ คลิกที่นี่  Liberator -เทรดหุ้นไทย หุ้น US - Apps on Google Play

 

ความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน

🔹ฐานรายได้มั่นคงจากสัญญาเช่าโรงแรมระยะยาว
+รายได้หลักของ LHHOTEL มาจากการให้สิทธิการเช่าโรงแรม Grand Centre Point ทั้งในกรุงเทพฯ และพัทยา โดยมีสัญญาเช่าระยะยาว (WALE เฉลี่ย 21.4 ปี) และค่าเช่าคงที่ ช่วยสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงและลดความผันผวนจากธุรกิจท่องเที่ยว

🔹จุดแข็งด้านทำเล Prime Location และแบรนด์โรงแรมที่แข็งแกร่ง
+โรงแรมในพอร์ตของ LHHOTEL ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ เช่น อโศก ราชดำริ ทองหล่อ และ Terminal 21 พัทยา ซึ่งเป็นย่านท่องเที่ยวสำคัญ ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวและลูกค้าธุรกิจ ขณะเดียวกัน แบรนด์ Grand Centre Point เป็นที่รู้จักดีในตลาดโรงแรม upscale

🔹มาตรฐานธรรมาภิบาลและโครงสร้างสัญญาที่เอื้อต่อความยั่งยืน
+LHHOTEL บริหารสินทรัพย์ด้วยโครงสร้างสัญญาเช่าที่มั่นคง ทั้งค่าเช่าคงที่และส่วนแบ่งค่าเช่าแปรผันตามผลประกอบการ ช่วยสร้างความยั่งยืนด้านรายได้ในระยะยาว

🔹โอกาสการเติบโตจากสินทรัพย์ใหม่และการท่องเที่ยวฟื้นตัว
+กองทรัสต์เพิ่งลงทุนเพิ่มในโรงแรมใหม่ 2 แห่งที่พัทยา ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้เต็มปีในปี 2568 พร้อมโอกาสรับรายได้ค่าเช่าแปรผันเพิ่มขึ้น หากอัตราการเข้าพักโรงแรมฟื้นตัวตามการท่องเที่ยว

ความเสี่ยงของธุรกิจและมาตราการการรับมือ

🔹ความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากโรงแรมในประเทศไทย

-ความเสี่ยง: LHHOTEL พึ่งพารายได้จากการให้เช่าโรงแรมในประเทศไทยทั้งหมด ทำให้มีความเสี่ยงหากภาคการท่องเที่ยวชะลอตัว หรือเกิดวิกฤต เช่น โรคระบาด หรือภาวะเศรษฐกิจถดถอย

+มาตรการการรับมือ: กองทรัสต์ใช้สัญญาเช่าระยะยาว พร้อมค่าเช่าคงที่เพื่อสร้างรายได้มั่นคง ลดผลกระทบจากความผันผวนระยะสั้น และมีส่วนแบ่งค่าเช่าแปรผันเพิ่มขึ้นเมื่อการท่องเที่ยวฟื้นตัว

🔹ความเสี่ยงจากการที่สินทรัพย์เป็น Leasehold

-ความเสี่ยง: สินทรัพย์ของ LHHOTEL เป็นสิทธิการเช่า (Leasehold) ที่มีอายุจำกัด ซึ่งจะหมดอายุลงตามระยะเวลาสัญญา ทำให้มูลค่าทรัพย์สินลดลงเรื่อย ๆ

+มาตรการการรับมือ: กองทรัสต์บริหารพอร์ตด้วย WALE เฉลี่ยยาวกว่า 21 ปี และมีนโยบายหาการลงทุนใหม่ หรือขยายอายุสิทธิการเช่าในอนาคต

🔹ความเสี่ยงจากการพึ่งพาผู้เช่าช่วงเพียงรายเดียว

-ความเสี่ยง: รายได้ของ LHHOTEL มาจากผู้เช่าช่วงหลักเพียงรายเดียว (L&H Hotel Management) ซึ่งหากผู้เช่าช่วงประสบปัญหาทางการเงิน อาจกระทบต่อรายได้ของกองทรัสต์โดยตรง

+มาตรการการรับมือ: กองทรัสต์ใช้สัญญาเช่าที่มีค่าเช่าคงที่เป็นฐาน ลดความเสี่ยงด้านกระแสเงินสด และติดตามสถานะผู้เช่าช่วงอย่างใกล้ชิด

🔹ความเสี่ยงจากการแข่งขันในธุรกิจโรงแรม

-ความเสี่ยง: การแข่งขันในธุรกิจโรงแรม โดยเฉพาะกลุ่ม upscale สูงมาก ทั้งจากผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ อาจกดดันอัตราการเข้าพักและค่าเช่าแปรผันในอนาคต

+มาตรการการรับมือ: LHHOTEL ลงทุนเฉพาะทำเล prime location ที่มี demand สูง และใช้แบรนด์ Grand Centre Point ที่เป็นที่รู้จักในตลาด upscale เพื่อรักษาความสามารถแข่งขัน

🔹ความเสี่ยงจากภาระหนี้สินในระดับสูง

-ความเสี่ยง: LHHOTEL มีอัตราส่วนหนี้สินต่อสิ ค นทรัพย์รวมที่สูง (42.13% ณ สิ้นปี 2567) อาจจำกัดความสามารถในการกู้เพิ่มเพื่อขยายการลงทุน

+มาตรการการรับมือ: บริษัทมีแผนทยอยลดหนี้ตาม EBITDA ที่เติบโต และรักษาระดับ D/E ให้อยู่ในเกณฑ์ตามข้อกำหนดของ ก.ล.ต. และ REIT Manager

โครงการในอนาคต

🔹 พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการผลิตด้วย Lean & IoT SABINA เดินหน้าพัฒนาระบบการผลิตด้วยแนวคิด Lean Enterprise และใช้เทคโนโลยี IoT เพื่อควบคุมคุณภาพ เพิ่มประสิทธิภาพ และลดความสูญเสีย รองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วในตลาดแฟชั่นONEREPORTAUT

🔹 ขยายพอร์ตสินค้านวัตกรรมเฉพาะกลุ่มบริษัทเพิ่มการลงทุนในผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น ชุดชั้นในสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม, ผู้หญิงตั้งครรภ์, กลุ่มวัยรุ่น และชุดกระชับสัดส่วน เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและขยายฐานลูกค้า

🔹 ลงทุนในกำลังการผลิตและระบบ Omni-Channel SABINA ขยายกำลังผลิตผ่านโรงงานใหม่ และพัฒนาระบบ Omni-Channel ที่เชื่อมโยงหน้าร้านและออนไลน์ พร้อมระบบ NSR (Non-Store Retailing) 24/7 เพื่อเพิ่มช่องทางขายและเข้าถึงลูกค้าได้อย่างทั่วถึง

🔹 พัฒนาระบบวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสิ่งแวดล้อมบริษัทใช้ระบบ Data-Driven Planning และนำหลัก Circular Economy มาประยุกต์ใช้ เช่น การแปรรูปของเสียจากฟองน้ำและการออกแบบสินค้ากลุ่ม Green Product ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

🔹 ยกระดับ ESG และธรรมาภิบาล SABINA มีเป้าหมายชัดเจนด้าน ESG โดยได้รับ ESG Rating ระดับ AAA และรางวัลด้าน IR, CEO, CFO ต่อเนื่อง มุ่งสู่การเป็นแบรนด์ชุดชั้นในที่เติบโตอย่างยั่งยืนและโปร่งใส

กราฟราคาหุ้น : LHHOTEL


** เพื่อนๆสามารถคลิ้กที่รูปกราฟ เพื่อติดตามข้อมูล RealTime ล่าสุดของวันนี้ได้นะ **

เว็บไซต์บริษัท :  LHHOTEL
56-1 รายงานประจำปี 2567 (Annual Report) : คลิ้กที่นี่เพื่อดาวน์โหลด

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

🔹 LHHOTEL มีรายได้หลักจากธุรกิจใด? รายได้หลักของ LHHOTEL มาจากการให้เช่าสิทธิการเช่าโรงแรมในเครือ Grand Centre Point ทั้งในกรุงเทพฯ และพัทยา โดยมีค่าเช่าคงที่เป็นรายได้หลัก และมีรายได้ค่าเช่าแปรผันตามผลประกอบการโรงแรม ซึ่งช่วยสร้างความมั่นคงให้กับกระแสเงินสดของกองทรัสต์

🔹 จุดเด่นที่สุดที่ทำให้บริษัทน่าสนใจคืออะไร? จุดเด่นของ LHHOTEL คือการถือครองสิทธิการเช่าโรงแรมในทำเล Prime Location ที่มีดีมานด์สูง เช่น อโศก ราชดำริ ทองหล่อ และพัทยา พร้อมโครงสร้างสัญญาเช่าระยะยาว (WALE เฉลี่ย 21.4 ปี) และค่าเช่าคงที่ที่สร้างรายได้มั่นคง อีกทั้งยังมีโอกาสรับรายได้ค่าเช่าแปรผันเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยว

🔹 บริษัทมีแผนการเติบโตในอนาคตอย่างไร? LHHOTEL วางแผนขยายพอร์ตสินทรัพย์ผ่านการลงทุนในโรงแรมใหม่ เช่น Grand Centre Point Space Pattaya และ Terminal 21 Pattaya เพื่อรองรับการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว พร้อมใช้กลยุทธ์ผสมผสานค่าเช่าคงที่และค่าเช่าแปรผันเพื่อเพิ่มศักยภาพการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

 
ซื้อหุ้น HAT ได้ที่ Liberator | ไม่มีขั้นต่ำ เซฟต้นทุนให้คุณตั้งแต่บาทแรก