สรุปหุ้น KLINIQ : บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน)

KLINIQ ให้บริการคลินิกความงามครบวงจร ทั้งผิวหนัง ศัลยกรรม และเวชศาสตร์ชะลอวัย รายได้หลักมาจากการให้บริการทางการแพทย์แก่ลูกค้าทั่วไปในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ จุดแข็งคือการใช้เทคโนโลยีทันสมัยผ่านเครื่องมือที่ได้รับการรับรองจาก US FDA สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมกลยุทธ์ขยายแบรนด์ใหม่และเปิดโรงพยาบาลรองรับการเติบโตของตลาดศัลยกรรมอย่างยั่งยืน


ข้อมูลเบื้องต้น

⏩  ตลาดหลักทรัพย์ที่จดทะเบียน: ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI)

⏩  อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง: บริการ

⏩  SET ESG Ratings : -

⏩  ขนาดบริษัท (Market Cap): 4,818.00 ล้านบาท

⏩  ข้อมูลอัพเดท ณ วันที่ 19/06/68

 

สินค้า และ บริการ

กลุ่มธุรกิจ สินค้า/บริการหลัก รายละเอียด/กลุ่มเป้าหมาย บริษัทในเครือ
THE KLINIQUE Aesthetic, Wellness, Surgery ครอบคลุมกลุ่มอายุ 20-55 ปี -
L.A.B. X เลเซอร์ผิวพรรณ วัยรุ่น - วัยทำงานตอนต้น -
L’CLINIC เวชกรรมเกาหลี กลุ่มที่ต้องการสินค้าระดับพรีเมียมเกาหลี -
KLINIQUE WELLNESS SPA Wellness/Physiotherapy ลูกค้าที่เน้นสุขภาพองค์รวม -
THE KLINIQUE SURGERY CENTER ศัลยกรรมตกแต่ง จัดตั้งบริษัทลูกดูแลเฉพาะ
โรงพยาบาลเดอะคลีนิกค์ จำกัด (100%)

KLINIQ สร้างรายได้หลักจากบริการความงามและศัลยกรรมแบบครบวงจร ทั้ง Aesthetic, Wellness และ Plastic Surgery มุ่งเน้นลูกค้าทั่วไปในเมืองใหญ่ พร้อมขยายสู่โรงพยาบาลเฉพาะทางและบริการเวชศาสตร์ชะลอวัย ต่อยอดด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ระดับสูงและระบบ CRM เพื่อเพิ่มรายได้จากบริการที่มีมูลค่าสูงและเสริมความภักดีของลูกค้า

สัดส่วนรายได้จากแต่ละธุรกิจ

กลุ่มธุรกิจ/ผลิตภัณฑ์ รายได้ปี 2566 (ลบ.) สัดส่วน % รายได้ปี 2567 (ลบ.) สัดส่วน % การเปลี่ยนแปลง
ขาย/บริการรักษาพยาบาล 2,284.98 98.56% 2,983.16 99.14% 🟩เพิ่มขึ้น 30.56%
รายได้อื่น 33.37 1.44% 25.79 0.86% 🟥ลดลง -22.72%
รวม 2,318.35 100% 3,008.95 100% 🟩เพิ่มขึ้น 29.79%

ข้อมูลล่าสุดของปี 2567 จาก 56-1 ของบริษัท

**สามารถอัปเดตข้อมูลล่าสุดได้ คลิกที่นี่  Liberator -เทรดหุ้นไทย หุ้น US - Apps on Google Play

 

ความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน

🔹 โครงสร้างธุรกิจความงามครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ผิวพรรณถึงศัลยกรรม
+KLINIQ มีบริการหลากหลายทั้งด้านผิวหนัง ศัลยกรรมตกแต่ง เวชศาสตร์ชะลอวัย และฟื้นฟูสุขภาพ ผ่านแบรนด์ย่อย เช่น THE KLINIQUE, L.A.B. X, L’CLINIC และ SURGERY CENTER พร้อมแผนขยายสู่โรงพยาบาลความงามเฉพาะทาง

🔹 รายได้หลักจากลูกค้าในประเทศทั่วทุกภูมิภาค
+รายได้ทั้งหมดของ KLINIQ มาจากลูกค้าในประเทศ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ ครอบคลุม 72 สาขาใน 21 จังหวัด สะท้อนการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทั่วประเทศ

🔹 บริการความงามระดับสากร ใช้นวัตกรรมและแพทย์เฉพาะทาง
+KLINIQ ให้บริการด้วยเครื่องมือที่ได้รับการรับรองจาก US FDA และ อ.ย. พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และการอบรมต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ

🔹 ยึดมั่นในคุณภาพ มาตรฐาน และธรรมาภิบาล
+บริษัทให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้รับบริการ มีระบบฝึกอบรมมาตรฐาน Service Wheel และการควบคุมคุณภาพบริการทุกสาขา พร้อมนโยบายด้านธรรมาภิบาลและจรรยาบรรณทางธุรกิจ

🔹 ขยายสู่อนาคตด้วยโรงพยาบาลศัลยกรรมและการตลาดฐานข้อมูล
+KLINIQ เตรียมต่อยอดการเติบโตผ่านบริษัทย่อย "โรงพยาบาลเดอะคลีนิกค์" รองรับความต้องการศัลยกรรมที่เติบโตต่อเนื่อง พร้อมลงทุนในระบบ CRM และ Loyalty Program เพื่อเพิ่มรายได้จากลูกค้าประจำและการทำ Personalized Marketing

ความเสี่ยงของธุรกิจและมาตราการการรับมือ

🔹 ความเสี่ยงจากการแข่งขันสูงในธุรกิจความงามและศัลยกรรม

-ความเสี่ยง: อุตสาหกรรมความงามมีการแข่งขันรุนแรง ทั้งจากคลินิกเอกชนและโรงพยาบาล รวมถึงผู้เล่นรายใหม่ที่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

+มาตรการการรับมือ: KLINIQ เน้นสร้างแบรนด์ที่จดจำได้ชัดเจน ให้บริการครบวงจรด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากยุโรปและสหรัฐฯ พร้อมขยายสาขาครอบคลุมทั่วประเทศเพื่อรักษาความได้เปรียบ

🔹 ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค

-ความเสี่ยง: ผู้บริโภคมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หากบริษัทปรับตัวไม่ทัน อาจสูญเสียลูกค้า

+มาตรการการรับมือ: บริษัทจัดทำ Customer Survey และวิเคราะห์ข้อมูลตลาดเป็นประจำ เพื่อนำมาพัฒนาและปรับปรุงบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างทันท่วงที

🔹 ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีทางการแพทย์

-ความเสี่ยง: เทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์มีการเปลี่ยนแปลงเร็วและมีต้นทุนสูง อาจกระทบต่อความคุ้มค่าในการลงทุน

+มาตรการการรับมือ: บริษัทมีระบบวิเคราะห์ ROI ก่อนตัดสินใจลงทุน รวมถึงจัดทำงบประมาณเครื่องมือแพทย์ประจำปีที่ต้องผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการ

🔹 ความเสี่ยงด้านภาวะแทรกซ้อนและผลข้างเคียงจากการรักษา

-ความเสี่ยง: ผู้ป่วยบางรายอาจเกิดผลข้างเคียงจากการรักษาหรือศัลยกรรม ซึ่งกระทบต่อชื่อเสียงและอาจนำไปสู่การฟ้องร้อง

+มาตรการการรับมือ: KLINIQ มีแผนสำรองกรณีฉุกเฉินร่วมกับโรงพยาบาลพันธมิตร และฝึกอบรมแพทย์อย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศเพื่อเพิ่มความชำนาญ

🔹 ความเสี่ยงจากการพึ่งพาบุคลากรทางการแพทย์

-ความเสี่ยง: การขาดแคลนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจกระทบต่อการขยายธุรกิจและคุณภาพบริการ

+มาตรการการรับมือ: บริษัทวางแผนบริหารกำลังแพทย์อย่างรัดกุม พร้อมให้ค่าตอบแทนที่จูงใจ และจัดกิจกรรมสร้างความผูกพันในองค์กรเพื่อรักษาบุคลากรระยะยาว

โครงการในอนาคต

🔹 ขยายศักยภาพธุรกิจด้วยโรงพยาบาลศัลยกรรมเฉพาะทางKLINIQ เดินหน้าลงทุนผ่านบริษัทย่อย “โรงพยาบาลเดอะคลีนิกค์” เพื่อรองรับความต้องการศัลยกรรมที่เติบโตสูง โดยวางตำแหน่งเป็นศูนย์กลางการรักษาความงามระดับพรีเมียม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

🔹 ขยายบริการและแบรนด์คลินิกให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าใหม่บริษัทมุ่งเน้นขยายแบรนด์ย่อย เช่น L.A.B. X, L’CLINIC และ WELLNESS SPA เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน และกลุ่มพรีเมียม พร้อมวางแผนเปิดสาขาแบบ Stand Alone ลดการพึ่งพาห้างสรรพสินค้า

🔹 พัฒนาระบบ CRM และการตลาดเชิงรุกผ่านข้อมูลKLINIQ ลงทุนในระบบ CRM และ Loyalty Program เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าแบบเจาะลึก รองรับการทำ Personalized Marketing และกระตุ้นการกลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เพิ่ม Lifetime Value ของลูกค้าแต่ละราย

🔹 เสริมศักยภาพองค์กรด้วยเทคโนโลยีและการบริหารความเสี่ยงบริษัทมีแผนลงทุนในเครื่องมือแพทย์เทคโนโลยีใหม่ เช่น Ulthera Prime พร้อมวิเคราะห์ ROI อย่างรอบคอบ และวางระบบประเมินความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์ในทุกมิติ เพื่อรองรับการเติบโตระยะยาวอย่างมีเสถียรภาพ

🔹 ตั้งเป้ายกระดับธรรมาภิบาลและความยั่งยืนแม้ยังไม่มี ESG Rating อย่างเป็นทางการ แต่ KLINIQ มีนโยบายด้านจริยธรรม จรรยาบรรณธุรกิจ และสิทธิมนุษยชนที่ชัดเจน พร้อมตั้งเป้าพัฒนาแนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมและการดูแลสังคมให้ครอบคลุมมากขึ้นในอนาคตอันใกล้

กราฟราคาหุ้น : KLINIQ


** เพื่อนๆสามารถคลิ้กที่รูปกราฟ เพื่อติดตามข้อมูล RealTime ล่าสุดของวันนี้ได้นะ **

เว็บไซต์บริษัท :  KLINIQ
56-1 รายงานประจำปี 2567 (Annual Report) : คลิ้กที่นี่เพื่อดาวน์โหลด

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

🔹 รายได้หลักของ KLINIQ มาจากธุรกิจใด? รายได้หลักของ KLINIQ มาจากการให้บริการทางการแพทย์ด้านความงาม ผิวหนัง ศัลยกรรม และเวชศาสตร์ชะลอวัย คิดเป็นสัดส่วน 99.14% ของรายได้รวมในปี 2567 โดยทั้งหมดมาจากลูกค้าในประเทศไทย ผ่านสาขากว่า 72 แห่งทั่วประเทศ

🔹 จุดเด่นที่สุดที่ทำให้บริษัทน่าสนใจคืออะไร? จุดแข็งของ KLINIQ คือการเป็นผู้นำในธุรกิจคลินิกความงามครบวงจร มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ใช้เทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองจาก US FDA และ อ.ย. พร้อม  ทีมแพทย์เฉพาะทางที่ได้รับการอบรมอย่างต่อเนื่อง บริษัทเน้นพัฒนาแบรนด์ใหม่และบริการระดับพรีเมียมเพื่อรองรับตลาดศัลยกรรมและความงามที่เติบโตต่อเนื่อง

🔹 บริษัทมีแผนการเติบโตในอนาคตอย่างไร? KLINIQ เตรียมเปิดโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านศัลยกรรมผ่านบริษัทย่อยในปี 2567 พร้อมขยายแบรนด์ L.A.B. X, L’CLINIC และ WELLNESS SPA เจาะตลาดกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารลูกค้าด้วยระบบ CRM และ Loyalty Program และลงทุนในเครื่องมือแพทย์ใหม่ที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันระยะยาว

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

 
ซื้อหุ้น KLINIQ ได้ที่ Liberator | ไม่มีขั้นต่ำ เซฟต้นทุนให้คุณตั้งแต่บาทแรก