สรุปหุ้น ILM : บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน)

 

ILM ดำเนินธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และให้เช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ จุดแข็งคือแบรนด์แข็งแรง ครอบคลุมบริการเรื่องบ้านครบวงจร มุ่งเติบโตยั่งยืนผ่าน Green Store, Omni–Channel และสินค้า Eco–Friendly.


ข้อมูลเบื้องต้น

  ตลาดหลักทรัพย์ที่จดทะเบียน: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (MAI)

  อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง: บริการ / พาณิชย์

  SET ESG Ratings : AA

  ขนาดบริษัท (Market Cap): 7,120.50 ล้านบาท

 ข้อมูลอัพเดท ณ วันที่ 1/08/68

 

สินค้า และ บริการ

กลุ่มธุรกิจ สินค้า/บริการหลัก รายละเอียด/กลุ่มเป้าหมาย บริษัทในเครือ
เฟอร์นิเจอร์ Index, Winner, Logica, Younique, etc. เฟอร์ฯ ครบวงจร ทั้ง Mass – Premium -
ของตกแต่งบ้าน Index Home, แบรนด์ฝากขายอื่นๆ ผ้าม่าน, เครื่องนอน, ของตกแต่ง 15,000+ รายการ -
พื้นที่เช่า The Walk, Little Walk, Index Mall Community Mall/Strip Mall สำหรับร้านอาหาร/บริการอื่น เดอะวอล์คฯ
OEM/โครงการ รับจ้างผลิต, ขายโครงการ B2B/B2G ทั้งในประเทศและต่างประเทศ (Made to Order) -
Online Shopee, Lazada, TikTok, Web ขายตรงผ่าน Digital Commerce ด้วย AI + LIVE Streaming -
แฟรนไชส์ต่างประเทศ 7 ประเทศ รวม 17 สาขา ขยายในอินเดีย, อินโด, เวียดนาม, เนปาล, ฯลฯ -

ILM สร้างรายได้หลักจากธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ผ่านแบรนด์หลากหลาย พร้อมธุรกิจให้เช่าพื้นที่ใน Community Mall เสริมจุดแข็งด้วยบริการครบวงจรและเครือข่ายสาขาทั่วประเทศ มุ่งสู่การเติบโตยั่งยืนด้วยการขยายสาขา พัฒนาช่องทาง Omni-Channel และนวัตกรรม Green Store ที่ใช้พลังงานสะอาดควบคู่แนวทาง ESG.

สัดส่วนรายได้จากแต่ละธุรกิจ

 
กลุ่มธุรกิจ/ผลิตภัณฑ์ รายได้ปี 2566 (ล้านบาท) สัดส่วน % รายได้ปี 2567 (ล้านบาท) สัดส่วน % การเปลี่ยนแปลง
รายได้จากการขาย 8,617.30 91.50% 9,024.40 91.20% 🟩เพิ่มขึ้น 4.72%
รายได้ให้เช่า/บริการ 691.8 7.30% 754.1 7.60% 🟩เพิ่มขึ้น 9.01%
รายได้อื่น 107.1 1.10% 111.6 1.10% 🟩เพิ่มขึ้น 4.20%
รวม 9,416.20 100% 9,890.20 100% 🟩เพิ่มขึ้น 5.03%

ข้อมูลล่าสุดของปี 2567 จาก 56-1 ของบริษัท

**สามารถอัปเดตข้อมูลล่าสุดได้ คลิกที่นี่  Liberator -เทรดหุ้นไทย หุ้น US - Apps on Google Play

 

ความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน

🔹 ฐานรายได้หลักจากธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ครบวงจร
+ILM สร้างรายได้หลักจากการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน (91.2% ของรายได้ปี 2567) ครอบคลุมตั้งแต่กลุ่ม Mass ถึง Premium ผ่านแบรนด์ในเครือ เช่น Index, Winner, Younique และ Logica ทั้งในช่องทางหน้าร้านและออนไลน์

🔹 จุดแข็งด้านแบรนด์และเครือข่ายสาขาทั่วประเทศ
+บริษัทมีแบรนด์แข็งแรงที่ครองใจผู้บริโภค พร้อมเครือข่ายสาขา Index Living Mall ทั่วประเทศ และมี Community Mall ภายใต้แบรนด์ The Walk, Little Walk ที่ช่วยสร้าง Traffic และรายได้ค่าเช่า

🔹 การต่อยอดธุรกิจผ่านแพลตฟอร์ม Omni–Channel
+ILM พัฒนาระบบขายแบบ Omni–Channel โดยเน้นการตลาดผ่าน TikTok, Shopee, Lazada และ LIVE Streaming เพื่อเชื่อมประสบการณ์ออนไลน์–ออฟไลน์ และขยายสู่บริการแบบ Made to Order (Interior Solution)

🔹 โอกาสเติบโตจากนวัตกรรมและต่างประเทศ
+บริษัทลงทุนใน Green Store แบบ Zero Energy Building ขยายแฟรนไชส์ต่างประเทศ (17 สาขาใน 7 ประเทศ) และใช้เทคโนโลยี AI–Automation เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ควบคู่กับแนวทาง ESG อย่างชัดเจนในระยะยาว

ความเสี่ยงของธุรกิจและมาตราการการรับมือ

🔹 ความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์
-ความเสี่ยง: ธุรกิจของ ILM โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเฟอร์นิเจอร์ มีความเชื่อมโยงกับภาคอสังหาฯ หากเศรษฐกิจชะลอตัวหรือการซื้อบ้านลดลง จะกระทบต่อการจับจ่ายของผู้บริโภค
+มาตรการการรับมือ: กระจายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม Mass และต่างจังหวัดมากขึ้น พร้อมขยายช่องทางขายออนไลน์และแฟรนไชส์ต่างประเทศเพื่อลดการพึ่งตลาดในประเทศ

🔹 ความเสี่ยงจากการแข่งขันในตลาดเฟอร์นิเจอร์
-ความเสี่ยง: ตลาดเฟอร์นิเจอร์มีการแข่งขันสูง ทั้งจากผู้ผลิตภายในประเทศและนำเข้า โดยเฉพาะกลุ่มราคาประหยัดและขายผ่านออนไลน์
+มาตรการการรับมือ: ใช้จุดแข็งด้านแบรนด์ การมีโรงงานในเครือ และบริการ Interior ครบวงจรเพื่อสร้างความแตกต่าง พร้อมพัฒนา Green Product และนวัตกรรมสินค้าตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่

🔹 ความเสี่ยงจากต้นทุนวัตถุดิบและโลจิสติกส์
-ความเสี่ยง: ต้นทุนไม้ วัสดุ และค่าขนส่งที่ผันผวนอาจกระทบต่อ margin โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยน
+มาตรการการรับมือ: ควบคุมต้นทุนผ่านโรงงานของตนเอง ใช้วัสดุทดแทนบางประเภท และมีการบริหารคลังสินค้าและขนส่งด้วยระบบเทคโนโลยี

🔹 ความเสี่ยงด้านบุคลากรและความต่อเนื่องของบริการ
-ความเสี่ยง: การขยายสาขาและบริการใหม่ต้องใช้บุคลากรด้านบริการ โลจิสติกส์ และ IT ที่มีความสามารถสูง หากไม่สามารถดึงดูดหรือรักษาไว้ได้ อาจกระทบคุณภาพงาน
+มาตรการการรับมือ: พัฒนาทักษะพนักงานผ่านโปรแกรมอบรมต่อเนื่อง และออกแบบสวัสดิการเพื่อรักษาคนเก่งในระยะยาว

🔹 ความเสี่ยงด้านความมั่นคงของระบบและภัยไซเบอร์
-ความเสี่ยง: การขยายช่องทางขายออนไลน์ และการใช้ระบบ Automation ทำให้มีความเสี่ยงจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์หรือระบบล่ม
+มาตรการการรับมือ: ลงทุนระบบ Cyber Security และสำรองข้อมูลสำคัญ พร้อมมีแผนฟื้นฟูระบบ (Disaster Recovery) หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน

โครงการในอนาคต

🔹 ยกระดับระบบเทคโนโลยีและช่องทางขาย Omni–Channel ILM พัฒนาแพลตฟอร์ม Omni–Channel ครอบคลุม Online–Offline ทั้ง Website, Marketplace และ LIVE Streaming เสริมด้วยระบบ AI–Automation เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขาย การจัดการคลังสินค้า และประสบการณ์ลูกค้า

🔹 ขยายสาขาและพื้นที่เชิงพาณิชย์ในทำเลศักยภาพบริษัทเดินหน้าขยาย Index Living Mall และ Community Mall อย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนเปิดสาขาใหม่ เช่น รัตนาธิเบศร์–สระบุรี พร้อมโครงการใหม่อีก 2 แห่งในปี 2568 เพื่อเพิ่มรายได้จากค่าเช่าและฐานลูกค้าในเมืองใหญ่

🔹 รุกตลาดต่างประเทศผ่านโมเดลแฟรนไชส์ ILM ขยายสาขาแฟรนไชส์ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมี 17 สาขาใน 7 ประเทศ โดยเฉพาะการเปิดสาขาใหม่ในอินเดีย (Pune) บนพื้นที่กว่า 3,200 ตร.ม. เพื่อสร้างรายได้ระยะยาวจากตลาดต่างประเทศ

🔹 พัฒนา Green Store และขับเคลื่อนด้วย ESG บริษัทมุ่งสู่ Green Store ที่ใช้พลังงานสะอาด เช่น Solar Rooftop และ Zero Energy Building พร้อมนำนโยบาย ESG มาปรับใช้ในการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนในทุกมิติของธุรกิจ

🔹 ลงทุนในคนและแบรนด์เพื่อรองรับการเติบโต ILM มีการฝึกอบรมและพัฒนาพนักงานต่อเนื่อง พร้อมปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัย และลงทุนในสินค้ากลุ่ม Eco–Friendly เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่และรักษาการเติบโตระยะยาวในฐานะผู้นำตลาดเฟอร์นิเจอร์ครบวงจร

กราฟราคาหุ้น : ILM


** เพื่อนๆสามารถคลิ้กที่รูปกราฟ เพื่อติดตามข้อมูล RealTime ล่าสุดของวันนี้ได้นะ **

เว็บไซต์บริษัท :  ILM
56-1 รายงานประจำปี 2567 (Annual Report) : คลิ้กที่นี่เพื่อดาวน์โหลด

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

🔹 ILM มีรายได้หลักจากธุรกิจใด? รายได้หลักของ ILM มาจากธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ซึ่งคิดเป็น 91.2% ของรายได้รวมในปี 2567 ส่วนรายได้จากการให้เช่าและบริการคิดเป็น 7.6% และรายได้อื่น 1.1%

🔹 จุดเด่นที่สุดที่ทำให้ ILM น่าสนใจคืออะไร? ILM มีจุดแข็งด้านแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่แข็งแรง พร้อมเครือข่ายสาขาทั่วประเทศและบริการครบวงจร ตั้งแต่การจำหน่าย–ตกแต่ง–จัดส่ง–ติดตั้ง รวมถึงการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์แบบ Community Mall และขยายแฟรนไชส์ต่างประเทศเสริมรายได้ระยะยาว

🔹 ILM มีแผนการเติบโตในอนาคตอย่างไร? บริษัทมีแผนขยายสาขาในประเทศและต่างประเทศ พัฒนา Green Store แบบ Zero Energy และลงทุนในระบบ Omni–Channel, LIVE Streaming, และ AI Automation เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงาน ควบคู่การขับเคลื่อนตามแนวทาง ESG อย่างเป็นระบบ

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

ซื้อหุ้น ILM ได้ที่ Liberator | ไม่มีขั้นต่ำ เซฟต้นทุนให้คุณตั้งแต่บาทแรก