สรุปหุ้น HTC : บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน)

HTC เป็นผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มใน 14 จังหวัดภาคใต้ ภายใต้ลิขสิทธิ์โคคา-โคลา เชี่ยวชาญการจัดจำหน่ายน้ำอัดลมและพัฒนาผลิตภัณฑ์สูตรไม่มีน้ำตาล พร้อมจุดแข็งด้านเครือข่ายการกระจายสินค้า-แบรนด์ระดับโลก มุ่งสู่ Total Beverage Company ด้วยเทคโนโลยีการผลิตทันสมัย และแนวทาง ESG อย่างยั่งยืน.

 
 


ข้อมูลเบื้องต้น

  ตลาดหลักทรัพย์ที่จดทะเบียน: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

  อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง: เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร / อาหารและเครื่องดื่ม

  SET ESG Ratings : AA

  ขนาดบริษัท (Market Cap): 6,109.20 ล้านบาท

 ข้อมูลอัพเดท ณ วันที่ 21/07/68

 

สินค้า และ บริการ

กลุ่มธุรกิจ สินค้า/บริการหลัก รายละเอียด/กลุ่มเป้าหมาย บริษัทในเครือ
น้ำอัดลม (Sparkling) โค้ก, แฟนต้า, สไปรท์, ชเวปส์ กลุ่มลูกค้าทั่วไป, เน้น TT, MT, ร้านอาหาร, นักท่องเที่ยว ผลิตเอง
ไม่อัดลม (Still) น้ำดื่มน้ำทิพย์, มินิทเมด กลุ่มใส่ใจสุขภาพ
บางส่วนซื้อมาจาก "ไทยน้ำทิพย์ คอมเมอร์เชียล"
สินค้าใหม่/พัฒนา OOHA, สูตรไม่มีน้ำตาล
วางกลุ่ม Zero Sugar เป็นหัวใจกลยุทธ์
 

HTC สร้างรายได้หลักจากการผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมในพื้นที่ภาคใต้ ภายใต้แบรนด์โคคา-โคลา ขยายพอร์ตด้วยผลิตภัณฑ์สูตรไม่มีน้ำตาลและบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล เดินหน้าลงทุนในสายการผลิตทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพและรองรับการเติบโต มุ่งสู่การเป็น Total Beverage Company ควบคู่แนวทาง ESG เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและผลตอบแทนระยะยาวให้ผู้ถือหุ้น บนพื้นฐานความเชี่ยวชาญในตลาดภูมิภาคมากกว่า 50 ปี.

 
 

สัดส่วนรายได้จากแต่ละธุรกิจ

กลุ่มธุรกิจ/ผลิตภัณฑ์ รายได้ปี 2566 (ล้านบาท) สัดส่วน % รายได้ปี 2567 (ล้านบาท) สัดส่วน % การเปลี่ยนแปลง
น้ำอัดลม 7,182.03 91.75% 7,529.67 92.62% 🟩เพิ่มขึ้น 4.84%
ไม่อัดลม 567.25 7.25% 584.22 7.19% 🟩เพิ่มขึ้น 2.99%
อื่นๆ 78.68 1.01% 15.91 0.20% 🟥ลดลง -79.78%
รวม 7,827.96 100% 8,129.80 100% 🟩เพิ่มขึ้น 3.86%

ข้อมูลล่าสุดของปี 2567 จาก 56-1 ของบริษัท

**สามารถอัปเดตข้อมูลล่าสุดได้ คลิกที่นี่  Liberator -เทรดหุ้นไทย หุ้น US - Apps on Google Play

 

ความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน

🔹 ฐานรายได้หลักจากการจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมภายใต้แบรนด์โคคา-โคลา
+HTC สร้างรายได้หลักจากการผลิตและจำหน่ายน้ำอัดลม เช่น โคคา-โคลา แฟนต้า สไปรท์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 92% ของรายได้รวมปี 2567 โดยมีพื้นที่ให้บริการ 14 จังหวัดภาคใต้แบบผูกขาดตามสัญญาแฟรนไชส์กับ The Coca-Cola Company ขณะที่กลุ่มสินค้าไม่อัดลม เช่น น้ำดื่มน้ำทิพย์ และเครื่องดื่มสุขภาพ ก็เติบโตตามเทรนด์ผู้บริโภค มุ่งตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมายในภาคใต้ซึ่งมีฐานประชากรและนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

🔹 จุดแข็งด้านเครือข่ายการจัดจำหน่าย-การผลิตและพันธมิตรระดับโลก
+HTC มีจุดแข็งด้านเครือข่ายกระจายสินค้าที่ครอบคลุม ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร และโมเดิร์นเทรดทั่วภาคใต้ มีโรงงานผลิตขนาดใหญ่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมสายการผลิต PET และขวดแก้วทันสมัย สนับสนุนด้วยมาตรฐานและแบรนด์ระดับโลกจาก Coca-Cola ซึ่งส่งเสริมความแข็งแกร่งด้านการตลาดและการสร้างแบรนด์ในระดับภูมิภาค

🔹 การลงทุนต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและรองรับเทรนด์สุขภาพ
+HTC ลงทุนกว่า 800 ล้านบาทในสายการผลิตขวดแก้วใหม่ และเพิ่มไลน์ PET เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น พร้อมพัฒนาสินค้าสูตรไม่มีน้ำตาล ตอบรับภาษีความหวานและกระแสสุขภาพในกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ โดยมีเป้าหมายผลักดันรายได้จากผลิตภัณฑ์ Zero Sugar ให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

🔹 โอกาสเติบโตจากเศรษฐกิจภาคใต้ การท่องเที่ยว และเทคโนโลยี
+แม้เผชิญแรงกดดันด้านต้นทุนวัตถุดิบและภาษีความหวาน แต่ HTC มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในภาคใต้ การเติบโตของเศรษฐกิจฐานราก และการใช้เทคโนโลยีอย่าง Smart Cooler และระบบ AI วิเคราะห์ข้อมูลการขาย-โลจิสติกส์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และขยายฐานลูกค้าอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ความเสี่ยงของธุรกิจและมาตราการการรับมือ

🔹 ความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากน้ำอัดลมเป็นหลัก

-ความเสี่ยง: รายได้ของ HTC กว่า 92% มาจากกลุ่มเครื่องดื่มน้ำอัดลม หากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปสู่น้ำตาลน้อยหรือ Zero Sugar เร็วกว่าที่บริษัทปรับตัว หรือหากแบรนด์คู่แข่งรุกเข้ามาในพื้นที่ภาคใต้มากขึ้น อาจกระทบยอดขายหลักอย่างมีนัยสำคัญ

+มาตรการการรับมือ: พัฒนาและผลักดันผลิตภัณฑ์สูตรไม่มีน้ำตาลให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ พร้อมใช้นวัตกรรมการตลาดผ่านช่องทางดิจิทัล และการกระจายสินค้าอย่างทั่วถึง

🔹 ความเสี่ยงด้านต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนพลังงาน

-ความเสี่ยง: ราคาวัตถุดิบหลัก เช่น น้ำตาล ขวด PET และพลังงานผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจโลก อาจกระทบต้นทุนการผลิตและอัตรากำไรขั้นต้น

+มาตรการการรับมือ: ใช้ระบบวางแผนจัดซื้อ-บริหารสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ ปรับสูตรการผลิตเพื่อให้ต้นทุนต่อหน่วยต่ำลง และติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ลดพลังงานไฟฟ้าจากภายนอก

🔹 ความเสี่ยงจากภาษีความหวานและกฎหมายสิ่งแวดล้อม

-ความเสี่ยง: ภาษีความหวานที่เพิ่มขึ้นตามระดับน้ำตาล และข้อกำหนดด้านบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล อาจเพิ่มต้นทุนและจำกัดความสามารถในการตั้งราคา

+มาตรการการรับมือ: พัฒนาสูตรเครื่องดื่มให้มีน้ำตาลต่ำหรือไม่มีน้ำตาล และวางแผนเปลี่ยนไปใช้ขวด Recycled PET รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ 100% ภายในปี 2573

🔹 ความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจในพื้นที่เดียว

-ความเสี่ยง: HTC ดำเนินธุรกิจเฉพาะในภาคใต้ หากเกิดภัยพิบัติ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ หรือความไม่สงบในภูมิภาค อาจส่งผลกระทบต่อยอดขายทั้งบริษัท

+มาตรการการรับมือ: กระจายช่องทางการขายทั้ง TT (Traditional Trade), MT (Modern Trade), ร้านอาหาร และจุดท่องเที่ยว พร้อมปรับกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ด้วยระบบข้อมูลเชิงลึก (Data-Driven)

🔹 ความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์และการกำกับดูแล

-ความเสี่ยง: การบริหารธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคจำนวนมาก อาจเผชิญความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์ เช่น ประเด็นสิ่งแวดล้อม หรือความเข้าใจผิดด้านสุขภาพ

+มาตรการการรับมือ: ใช้แนวทาง ESG สื่อสารความโปร่งใส ตั้งเป้า Carbon Neutral และมีมาตรการรับฟังข้อร้องเรียนจากลูกค้าและชุมชนอย่างเป็นระบบ

โครงการในอนาคต

🔹 ยกระดับเทคโนโลยีการผลิตและระบบจัดจำหน่าย HTC มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีในกระบวนการผลิตและการกระจายสินค้า เช่น การติดตั้งสายการผลิตขวดแก้วความเร็วสูง (800 ขวด/นาที) ระบบจัดการสินค้าคงคลังอัตโนมัติ และการใช้ Smart Cooler และระบบ AI วิเคราะห์ข้อมูลการขาย เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างแม่นยำ

🔹 ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อกระจายความเสี่ยงจากน้ำอัดลม บริษัทเพิ่มสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์ไม่อัดลม เช่น น้ำดื่มน้ำทิพย์ มินิทเมด OOHA และเครื่องดื่มสูตรไม่มีน้ำตาล เพื่อรองรับเทรนด์สุขภาพและภาษีความหวาน พร้อมทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกับพันธมิตรเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต

🔹 เตรียมลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตรองรับดีมานด์ บริษัทเตรียมลงทุนกว่า 800 ล้านบาทในสายการผลิตขวดแก้ว และเพิ่มกำลังการผลิตขวด PET ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย รองรับการเติบโตของตลาดภาคใต้และการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว รวมถึงเตรียมพร้อมบรรจุภัณฑ์ Recycled PET รองรับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม

🔹 เดินหน้าธุรกิจตามแนวทาง ESG อย่างยั่งยืน HTC วางเป้าหมายลดคาร์บอนให้เป็นกลาง (Carbon Neutral) และเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ไม่น้อยกว่า 20% ภายในปี 2573 พร้อมดำเนินโครงการคืนสุขสู่ชุมชนในภาคใต้ และใช้บรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ 100% ภายในระยะยาว

🔹 เสริมธรรมาภิบาลและพัฒนาทีมสู่ Total Beverage Company บริษัทให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการที่ดี (CGR 5 ดาว) และเตรียมพัฒนาทีมบริหารในด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์, โลจิสติกส์ และกลยุทธ์ดิจิทัล เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เป็น Total Beverage Company ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่อย่างครอบคลุม

กราฟราคาหุ้น : HTC


** เพื่อนๆสามารถคลิ้กที่รูปกราฟ เพื่อติดตามข้อมูล RealTime ล่าสุดของวันนี้ได้นะ **

เว็บไซต์บริษัท :  HTC
56-1 รายงานประจำปี 2567 (Annual Report) : คลิ้กที่นี่เพื่อดาวน์โหลด

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

🔹 HTC มีรายได้หลักจากธุรกิจใด? HTC มีรายได้หลักจากการผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมภายใต้แบรนด์โคคา-โคลา เช่น โค้ก แฟนต้า สไปรท์ ซึ่งคิดเป็น 92.6% ของรายได้รวมในปี 2567 นอกจากนี้ยังมีรายได้จากเครื่องดื่มไม่อัดลม เช่น น้ำดื่มน้ำทิพย์ และมินิทเมด เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ โดยรายได้ทั้งหมดมาจากพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย

🔹 จุดเด่นที่สุดที่ทำให้ HTC น่าสนใจคืออะไร? HTC โดดเด่นจากความเป็นผู้นำตลาดน้ำอัดลมใน 14 จังหวัดภาคใต้ด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 78% พร้อมแบรนด์ระดับโลกจาก Coca-Cola และเครือข่ายจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง อีกทั้งมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในสายการผลิตอัตโนมัติ เทคโนโลยี Smart Cooler และกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์สูตรไม่มีน้ำตาล ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพและกฎหมายภาษีความหวาน

🔹 HTC มีแผนการเติบโตในอนาคตอย่างไร? จาก One Report 2567 HTC มีแผนลงทุนเพิ่มสายการผลิตขวดแก้วมูลค่ากว่า 800 ล้านบาท และเพิ่มไลน์ PET รองรับความต้องการที่เติบโต พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ Zero Sugar และบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น Recycled PET โดยมีเป้าหมายใช้พลังงานหมุนเวียน 20% ภายในปี 2573 และผลักดันการเป็น Total Beverage Company อย่างยั่งยืนในระยะยาว

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

 
ซื้อหุ้น HTC ได้ที่ Liberator | ไม่มีขั้นต่ำ เซฟต้นทุนให้คุณตั้งแต่บาทแรก