พาไปรู้จักหุ้น Tesla (TSLA) – จากรถไฟฟ้า สู่จักรวาลพลังงานและ AI แห่งอนาคต
หุ้น Tesla คือใคร ทำธุรกิจอะไร
Tesla, Inc. ก่อตั้งในปี 2003 โดยกลุ่มวิศวกรที่เชื่อว่า รถยนต์ไฟฟ้าสามารถดีกว่ารถน้ำมันได้ทั้งสมรรถนะและความยั่งยืน ปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่ที่ Austin, Texas และเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในโลกกว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
พันธกิจของ Tesla คือ “Accelerate the world’s transition to sustainable energy”
หรือ “เร่งให้โลกเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานที่ยั่งยืน”
ธุรกิจหลักของ Tesla แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่
1. Automotive (รถยนต์ไฟฟ้า)
ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าหลัก 4 รุ่น
Model S – รถซีดานระดับพรีเมียม
Model 3 – รถซีดานขนาดกลางยอดนิยม
Model X – SUV หรู
Model Y – ครอสโอเวอร์ที่ขายดีที่สุดของโลกในปี 2024
รวมถึงรถรุ่นใหม่ Cybertruck และแผนเปิดตัว “รถรุ่นประหยัด” ราคาต่ำกว่า $30,000 เพื่อขยายฐานลูกค้าทั่วโลก
2. Energy Generation & Storage (พลังงานและระบบเก็บพลังงาน)
Tesla ผลิตแบตเตอรี่และระบบเก็บพลังงาน เช่น
Powerwall สำหรับบ้านเรือน
Megapack สำหรับโรงไฟฟ้าและหน่วยงานพลังงาน
Solar Roof / Solar Panel สำหรับผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
ธุรกิจนี้เติบโตแรง โดยมีคำสั่งซื้อ Megapack จากบริษัทพลังงานทั่วโลก และ Tesla ตั้งเป้าเพิ่มการผลิตถึง “ระดับเทราวัตต์ต่อปี”
3. Software, AI & Robotics (ซอฟต์แวร์, ปัญญาประดิษฐ์ และหุ่นยนต์)
Tesla เป็นบริษัทเทคโนโลยีเต็มรูปแบบ
ระบบ Full Self-Driving (FSD) และ Autopilot
บริการ Robotaxi ซึ่งจะเปิดให้บริการในเมือง Austin กลางปี 2025
หุ่นยนต์มนุษย์ Optimus ที่คาดว่าจะเริ่มใช้งานจริงในโรงงาน Tesla และตั้งเป้าผลิต 1 ล้านตัวภายในปี 2030
จุดแข็งของหุ้น Tesla
1. ผู้นำตลาดรถไฟฟ้าโลก
Tesla ครองส่วนแบ่งตลาด EV ระดับโลกกว่า 20% ในปี 2024 ด้วยยอดขายมากกว่า 1.8 ล้านคันต่อปี
และเป็นแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ “นวัตกรรม + ความล้ำสมัย” สูงสุดในอุตสาหกรรม
2. เทคโนโลยีในมือครบวงจร (Vertical Integration)
Tesla ออกแบบและผลิตชิ้นส่วนหลักเอง ตั้งแต่แบตเตอรี่ ชิป AI ไปจนถึงซอฟต์แวร์ควบคุม ทำให้ควบคุมต้นทุนและคุณภาพได้ดี
3. ข้อได้เปรียบด้านข้อมูล (Data Advantage)
Tesla มีข้อมูลการขับขี่จริงจากรถที่ใช้งานอยู่ทั่วโลกมากกว่า 5 ล้านคัน ซึ่งถูกใช้ฝึก AI สำหรับระบบขับอัตโนมัติ นี่คือ “กำแพงป้องกันคู่แข่ง” ที่สร้างยากมาก
4. เครือข่ายชาร์จ Supercharger
Tesla มีสถานีชาร์จมากกว่า 55,000 แห่งทั่วโลก และเปิดให้ค่ายรถอื่นใช้งานได้ (สร้างรายได้เพิ่ม)
เกิด “network effect” ที่ยิ่งมีผู้ใช้มาก มูลค่าของระบบก็ยิ่งสูงขึ้น
5. แบรนด์ & ผู้นำที่ทรงพลัง
Elon Musk เป็นทั้งจุดแข็งและแรงขับเคลื่อนสำคัญ เขานำ Tesla จากบริษัทเล็กสู่ผู้นำโลกในเวลาไม่ถึง 20 ปี
โครงสร้างการได้เปรียบ (Economic Moat)
-
Counter-Positioning: Tesla เน้น EV ขณะที่คู่แข่งส่วนใหญ่ยังพึ่งเครื่องยนต์น้ำมัน ทำให้ไม่ต้องแข่งขันในตลาดเก่าของตัวเอง
-
Scale Economies: การผลิตรถและ Megapack ปริมาณมากช่วยลดต้นทุนต่อหน่วย
-
Switching Costs: ระบบนิเวศ Tesla ทำให้ลูกค้าเปลี่ยนแบรนด์ได้ยาก
-
Network Economies: เครือข่าย Supercharger และระบบข้อมูลจากรถทั่วโลกสร้างคุณค่าต่อเนื่อง
-
Technology Lead: Tesla มี FSD, ซอฟต์แวร์ OTA และ AI chip ของตัวเอง
โอกาสเติบโต (Future Growth Drivers)
1. Robotaxi Platform
Tesla จะเปิดบริการ Robotaxi เชิงพาณิชย์ใน Austin กลางปี 2025 และขยายทั่วสหรัฐในปี 2026
หากสำเร็จ จะเป็น “ธุรกิจ recurring income” คล้าย Uber แต่ไม่ต้องจ่ายคนขับ
2. Optimus Humanoid Robot
Tesla ตั้งเป้ามีหุ่นยนต์ Optimus ทำงานในโรงงานนับพันตัวภายในสิ้นปี 2025 และผลิตระดับ 1 ล้านตัวต่อปีในปี 2030
เป้าหมายคือช่วยลดต้นทุนแรงงานและเปิดตลาด “หุ่นยนต์เพื่อการใช้งานทั่วไป”
3. Energy Storage Megapack
ธุรกิจพลังงานเติบโตเร็ว โดย Megapack ถูกสั่งจองล่วงหน้าเต็มกำลังผลิต
ตลาดนี้มีศักยภาพสูงในยุคพลังงานหมุนเวียนที่ต้องใช้ระบบเก็บไฟฟ้าเสถียร
4. Affordable EV Models
รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ราคาประหยัดจะช่วยขยายตลาดสู่กลุ่มแมสในประเทศกำลังพัฒนา เช่น อินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลาง
5. AI & Software Revenue
รายได้จากการสมัครใช้ระบบขับอัตโนมัติ (FSD Subscription) และบริการ OTA จะกลายเป็นรายได้ซ้ำที่มี margin สูง
ความเสี่ยงของหุ้น Tesla
-
เทคโนโลยีขับอัตโนมัติ (Autonomous Risk)
Robotaxi ยังต้องผ่านกฎหมายและความปลอดภัย หากล่าช้า อาจทำให้รายได้และมูลค่าหุ้นสะดุด -
ความเสี่ยงด้านหุ่นยนต์ Optimus
การผลิตและใช้งานหุ่นยนต์จำนวนมากอาจเผชิญปัญหาทางเทคนิคและต้นทุนสูง -
ซัพพลายเชนและต้นทุนโลหะ
ราคาลิเทียม นิกเกิล และวัสดุแบตเตอรี่ผันผวน อาจกระทบ margin -
การแข่งขันสูงขึ้นในตลาด EV
ค่ายจีนอย่าง BYD, XPeng และค่ายญี่ปุ่นเริ่มเร่งพัฒนา EV เต็มรูปแบบ -
มูลค่าหุ้นสูง (Valuation Risk)
ราคาหุ้นสะท้อนความคาดหวังสูงมาก หาก Tesla ไม่สามารถส่งมอบผลลัพธ์ได้ตามเป้า อาจเกิดแรงขายระยะสั้น
Tesla ไม่ได้ขายแค่รถ แต่ขาย “อนาคตของพลังงานและการขับเคลื่อน”
ธุรกิจของบริษัทครอบคลุมตั้งแต่ยานยนต์, พลังงาน, หุ่นยนต์, ไปจนถึง AI ซึ่งคืออุตสาหกรรมแห่งศตวรรษใหม่
===================
STOCK UNBOX
ซีรีส์ที่จะพาคุณมา แกะกล่องหุ้น
ไม่ว่าจะเป็นหุ้นไทยหรือหุ้นต่างประเทศ
ดูเรื่องราวเบื้องหลังของบริษัท
ทำความรู้จักธุรกิจ โมเดลรายได้ จุดแข็ง–จุดอ่อน
และยังอัพเดทข่าวสำคัญที่กระทบกับหุ้นเหล่านี้
และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น…
เพราะยังมีหุ้นอีกมากมาย ที่เราจะมา UNBOX
เพื่อให้คุณเข้าใจตลาดหุ้นได้สนุกและง่ายขึ้นกว่าเดิม
===================
ที่มา (References)
https://fiscal.ai/company/NasdaqGS-TSLA/
https://ir.tesla.com/#quarterly-disclosure
==================================
Disclaimer:
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่นักลงทุนเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
นักลงทุนควรศึกษาลักษณะสินค้าและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด
ก่อนตัดสินใจ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดพิจารณาให้รอบคอบ
==================================









