ความชัดเจนสารพัดเรื่องถูกเปิดออกมาหมดแล้ว แต่เศรษฐกิจไทยก็ยังคงเปราะบาง เหล่ามนุษย์เงินเดือนปรับตัวอย่างไรดี?

 



          ข่าวเศรษฐกิจช่วงนี้ที่ควรรู้

 

1.ภาษีนำเข้าสหรัฐ 19%
 
ใกล้เคียงกับอาเซียน และต่ำกว่าอัตราแรกเริ่มที่ 36% ทำให้ไทยไม่เสียเปรียบในการแข่งขัน → ทว่าผู้
ประกอบการเร่งส่งออกนำไปก่อนสรุปตัวเลข ดังนั้นส่งออกช่วงที่เหลือจึงมีแนวโน้มอ่อนแรง หุ้นส่งออก
กำไรจะอ่อนลงเช่นกัน
 
2.กนง.
 
มีมติลดดอกเบี้ยอีก 25 bps เป็น 1.50% ย้ำว่าเพื่อเอื้อเฟื้อต่อเศรษฐกิจ ส่วนธนาคารพาณิชย์ก็ลด
ดอกเบี้ยตามอย่างพร้อมเพรียง → เริ่ม refinance บ้านได้เลย คนฝากเงินหาแหล่งออมใหม่ หุ้นกลุ่ม
ไฟแนนซ์ได้ประโยชน์
 
3.เงินเฟ้อทั่วไป
 
เดือน ก.ค. ติดลบต่อเนื่อง -0.70% จาก -0.25% เดือนก่อน ติดลบ 4 เดือนติดๆ แม้ ก.พาณิชย์ ย้ำไม่ใช่
เงินฝืด → แต่กำลังซื้อซึมยาว เกาะเก้าอี้มนุษย์เงินเดือนให้แน่น อย่าเพิ่งรีบธุรกิจใหม่ หุ้นค้าปลีกเหงาต่อ
 
4.ท่องเที่ยว
 
จำนวนนักท่องเที่ยวยังฟื้นตัวช้า ล่าสุด YTD 20.8 ล้านคน หดตัว -7.0% y-y สภาพัฒน์ฯจึงปรับเป้าจาก
37 เหลือ 33 ล้านคนหุ้นท่องเที่ยวจะไม่เด่นเหมือนทุกช่วงท้ายปี
 
5.ตลาดหุ้น
 
เดือน ส.ค. แกว่งตัวออกข้าง รอความชัดเจนหลายเรื่อง หลังขึ้นแรง +14% ในเดือน ก.ค. → ช่วยล้าง
สัญญาณความร้อนแรง (overbought) เพื่อเตรียมเดินหน้าต่อในช่วง high season ของหลายๆภาค
ธุรกิจ ย่อเป็นโอกาสสะสมหุ้น
 

ส่องสินทรัพย์ช่วงนี้ มีอะไรน่าลงทุนบ้าง !?


เงินฝาก

แม้เงินเฟ้อจะต่ำ แต่ดอกเบี้ยก็ต่ำเกินไปจนเสียโอกาส ควรหาแห่งฝากใหม่ เช่น กองทุน Money

 Market Fund, บัญชีเงินฝาก FCD ก็ได้

ทองคำ

แม้ความเสี่ยงเรื่องสงครามจริง และการค้า เริ่มทรงตัวแล้ว แต่ตลาดมั่นใจว่า FED จะลดดอกเบี้ยใน

เดือน ก.ค. ส่งผลให้ดอลล่าร์มีแนวโน้มอ่อนค่า พร้อมสภาพคล่องที่สูงขึ้น ทองคำเริ่มน่าสนใจมากขึ้น

หุ้นกู้

ดอกเบี้ยกำลังเป็นขาลงแล้ว นลท.ที่ชอบ Yield  เช่น หุ้นกู้ ควรเริ่ม Lock rate โดยเข้าลงทุนที่หุ้นกู้

เอกชนพื้นฐานดีที่ให้ดอกเบี้ยสูง

หุ้นไทย

SET index ยังซื้อขายในระดับไม่แพงกว่า แต่ก็ไม่ได้ถูกมาก หากไม่หลุดเส้นค่าเฉลี่ย EMA200 วัน

 (1236 จุด) สามารถสะสมได้

หุ้นนอก

หุ้นสหรัฐยังคงทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง จากกำไรที่แข็งแกร่ง มีอยู่ถือต่อไปได้ ส่วนเม็ดเงินใหม่อาจใช่

ประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็งค่า นำไปเพิ่มน้ำหนักที่ หุ้นจีน ฮ่องกง ยุโรป เวียดนาม ได้

 

 

เช็คลิสต์ อะไรควรทำ ไม่ควรทำ ในช่วงวัยของคุณ







อายุ 25-35 ปี

สิ่งที่ควรทำเดี๋ยวนี้ – เพิ่มการออม

 สำหรับคนที่พึ่งเริ่มทำงานควรบริหารเงินให้เป็นบวกคือรายได้มากกว่าค่าใช้จ่ายถ้าไม่พอใช้ต้องลดราย

จ่ายหรือหารายได้เพิ่มสำหรับการเก็บเงินสำรองเน้นไปที่ Money Market Fund และ FCD โดย Money

Market ได้เปรียบในเรื่องสภาพคล่องแต่ FCD ได้เปรียบในเรื่องอัตราดอกเบี้ยงที่สูง สำหรับคนที่ไม่มีเวลา

ศึกษา เรื่องการลงทุนให้เริ่มวางแผนภาษีด้วยกองทุนรวมและประกันชีวิต สำหรับคนที่มีเวลาศึกษาการ

ลงทุนให้ลงทุนด้วยเงินน้อย ๆ อย่ากู้ยืมเงินมาลงทุนเด็ดขาด

สิ่งที่ไม่ควรทำช่วงนี้

พึ่งเริ่มทำงานอย่าพึ่งรีบซื้อรถถ้าไม่จำเป็น

--------------------------------------------------------

 อายุ 36-45 ปี

สิ่งที่ควรทำเดี๋ยวนี้ – มั่งคั่ง แผนเกษียน

 สำหรับคนที่ผ่อนบ้านเกิน 3 ปี ต้องทำเรื่อง Refinance เงินกู้บ้าน อย่ากู้หนี้เพิ่ม นอกจากนี้ควรผ่อน

มากกว่าขั้นต่ำเพื่อให้หนี้ปิดเร็วกำหนด วางแผนเกษียณและการศึกษาบุตรด้วยหุ้นปันผลและกอง REIT

หุ้นกู้ดอกเบี้ยต่ำไม่ควรลงทุน เพิ่มการลงทุนในทองคำ รวมถึงวางแผนภาษี TESG และ RMF เน้นหุ้นจีน

ฮ่องกง เวียดนาม ส่วนหุ้นไทยทยอยซื้อ ถ้ามีเงินปันผลจากหุ้นสามารถนำมาเครดิตภาษีได้ถ้าฐานภาษีราย

ได้น้อยกว่า 20% ถ้าฐานภาษีเกิน 20% ไม่ต้องนำไปรวมเพราะจะต้องจ่ายภาษีเพิ่ม

สิ่งที่ไม่ควรทำช่วงนี้

เพิ่มค่าใช้จ่ายตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น

--------------------------------------------------------

อายุ 46-60 ปี

สิ่งที่ควรทำเดี๋ยวนี้ – รักษาเงินใช้ยาวๆ

จัดการหนี้ควรให้หนี้หมดก่อนเกษียณ พอร์ตการลงทุนต่าง ๆ ต้องลดระดับความเสี่ยงลงมาตามอายุที่

 

มากขึ้น หุ้น TFEX ลดสัดส่วนลง สำรวจค่าใช้จ่ายเทียบกับรายได้ Passive income ถ้ายังติดลบต้องสร้าง

 

สินทรัพย์ทางการเงินเพิ่มโดยใช้ หุ้นปันผลและกอง REIT สำหรับบางคนถ้าถนัดอสังหา สามารถลงทุนใน

 

อสังหาแล้วปล่อยเช่าได้ กองลดหย่อนภาษีพวก LTF ที่ครบกำหนดควรนำมาลงในกอง THAI ESG และ

 

RMF ต่อเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี สุดท้ายดูแลรักษาสุขภาพ ออกกำลังกายด้วย

สิ่งที่ไม่ควรทำช่วงนี้

ไม่ควรก่อหนี้เพิ่ม เพราะอายุทำงานน้อยลง

--------------------------------------------------------

คลิกที่นี่  โหลด e-book ข้อมูลชุดนี้เก็บเอาไว้อ้างอิง 
หรือ ส่งต่อให้เพื่อนๆ ของคุณที่ต้องการเริ่มต้นจัดการการเงินได้