หลบภัยตลาดผันผวน ด้วย กองทุนหุ้นญี่ปุ่น
เดาทางเกมการเมืองอเมริกา-จีน ยาก ก็ไม่ต้องไปเดา
มองหา การลงทุนที่ปลอดภัยกว่า กับกองทุนหุ้นประเทศที่พัฒนาแล้ว มีโอกาสเติบโตต่อกับ กองทุนหุ้นญี่ปุ่น
เรียนรู้เรื่องการลงทุนหุ้นไทย, หุ้นสหรัฐอเมริกา, กองทุนรวม, TFEX แบบเต็มอิ่มได้ที่ Liberator
อ่านจบแล้วจะเห็นว่า:
1. ทำไมหุ้นญี่ปุ่นถึงปลอดภัยกว่า เป็นหลุมหลบภัยได้
2. ทำไมหุ้นญี่ปุ่นถึงจะทำให้เงินเราเติบโตได้
3. อยากลงทุนหุ้นญี่ปุ่น ลงทุนทางไหนดี
ถ้าพร้อมแล้ว หาโอกาสลงทุนที่ปลอดภัยแต่ยังผลตอบแทนดีอยู่ ไปกันเลย
1. หุ้นญี่ปุ่น ปลอดภัยกว่า
เมื่อ 2 เม.ย. 2025 อเมริกาได้ประกาศ มาตรการ ตอบโต้ภาษีการค้า (Reciprocal tariff) ทำให้ทั่วโลกกำลังจะเจอภาษีการค้า 20-90%
ภาษีใหม่ที่อเมริกาประกาศทำให้ของที่นำเข้าแพงขึ้นทันตาเห็น คนที่ขายของไปอเมริกาอย่างเวียดนาม อินเดียเจอหนักแน่ เพราะลูกค้าก็ต้องไปหาของที่ถูกกว่าที่อื่นแทน
พอเป็นแบบนี้ตลาดหุ้นหลายๆ ประเทศก็เริ่มกังวลกัน ตัวเลขการเติบโตของทั้งสหรัฐอเมริกาและจีนก็ออกมาไม่สู้ดีนักทั้งคู่
ตลาดตอนนี้เลยอยู่ในช่วง หาที่ลงทุนใหม่ที่ปลอดภัยขึ้นมาหน่อย ไม่ใช่คู่กรณี 2 ประเทศหลักแบบอเมริกาและจีน
1.1. คนกำลังมองหาหุ้นที่ปลอดภัย เน้นขายของในประเทศ
เพราะภาษีการค้าจะเกิดขึ้นกับหุ้นที่ส่งออก เช่น รถยนต์ญี่ปุ่น, ชิ้นส่วนชิปส์, แร่หายาก
ดังนั้น ถ้าเราจะหลบภัยตอนนี้ เราต้องหา หุ้นที่เน้นขายของในประเทศ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนก็ยังต้องกินต้องใช้บริการธุรกิจเหล่านี้
เช่น ธนาคาร สถาบันการเงินในประเทศ, ร้านค้าปลีก, ขายของกิน ซึ่งญี่ปุ่นมีหุ้นกลุ่มพวกนี้ซ่อนอยู่และกำลังทำได้ดีด้วย
1.2. หุ้นญี่ปุ่นเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่คนลงทุนน้อย
ญี่ปุ่นเป็นประเทศพัฒนาแล้ว แต่คนก็ไม่ค่อยชอบใจหุ้นญี่ปุ่นเท่าไหร่ ทำไมกันนะ?
เพราะเศรษฐกิจญี่ปุ่นก่อนหน้านี้มันไม่เซ็กซี่ หุ้นไม่เติบโต จะซื้อพันธบัตรก็ได้ดอกเบี้ยต่ำ เทียบกับที่อื่นแล้ว กู้เงินญี่ปุ่นไปลงทุนที่อื่นยังจะดีกว่า
ในตอนนี้ที่คนมองหาตลาดที่ปลอดภัยขึ้น ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ดันมีนักลงทุนถือหุ้นน้อยกว่าประเทศพัฒนาแล้วที่อื่นๆ ซะอย่างนั้น
ในขณะที่คนส่วนใหญ่ นำเงินไปใส่หุ้นอเมริกาเอาไว้ หุ้นญี่ปุ่นมีคนถือเพียงแค่ 14% เท่านั้น
แบบนี้ทั้งพื้นฐานและ Flow เงินก็เข้าทางญี่ปุ่นเลยน่ะสิ
1.3. ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีโอกาสเจรจาจบไว
ท่าทีของสหรัฐอเมริกาตอนนี้ เริ่ม "ร้อนรน" แล้วเจรจากับหลายๆ ประเทศมากขึ้น ล่าสุดสหรัฐอเมริกาได้ตกลงทางการค้ากับอังกฤษไปแล้วเรียบร้อย พันธมิตรของอเมริกาแบบญี่ปุ่นก็มีแนวโน้มที่จะเจรจาได้ และลดภาระภาษีเหลือ 10% แทนที่จะโดน 26% ตอนนี้
ญี่ปุ่นเองก็ต้องนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศอยู่แล้ว ญี่ปุ่นสามารถใช้เรื่องนี้เป็นแกนในการตกลงเจรจาได้
ตอนนี้ (7 พ.ค. 2568) อยู่ในช่วงเวลาที่อเมริกาบอกว่ายกเว้นให้ก่อน 90 วัน (หมดเวลายกเว้นช่วง 10 ก.ค. 68) เราเลยเริ่มเห็นหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นมาบ้าง
จากวันที่ 8 เม.ย. จนถึงวันที่ 6 พ.ค. 68
- ดัชนี S&P500 ของอเมริกาขึ้นมาแล้ว 13%
- ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงขึ้นมาแล้ว 13.18%
- ดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่นขึ้นมาแล้ว 14.36%
- ดัชนี SET ของไทยขึ้นมาแล้ว 10.71%
ญี่ปุ่นปรับตัวดีที่สุด ส่วนไทยนั้น 55555
ใครอ่านแล้วเริ่มสนใจญี่ปุ่นเหมือนกัน ลองเข้าแอป Liberator ไปส่องพอร์ตดูก่อนได้เลย เผื่อมีจังหวะดีๆ ให้เก็บเพิ่ม ✌️
2. หุ้นญี่ปุ่น โตไม่เร็ว แต่ปันผลดี
แล้วญี่ปุ่นยังมีโอกาสเติบโตไหม ด้วยธรรมชาติของเศรษฐกิจญี่ปุ่นตอนนี้ มีปัจจัยผลักดันให้โตขึ้น 3 เรื่องหลัก
2.1. ญี่ปุ่นกำลังจะหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด
ญี่ปุ่นก่อนหน้านี้ติดหล่มในยุคเงินฝืด คนญี่ปุ่นไม่กล้าเอาเงินออกมาใช้จ่าย มาลงทุนกัน
ตอนนี้หลังจากที่ข้าวของเริ่มแพงขึ้น เงินเดือนของคนญี่ปุ่นก็เพิ่มขึ้น คนเริ่มใช้เงินมากขึ้น
ความหวังที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังจะหลุดพ้นจากภาวะ "ทศวรรษที่สูญหาย" ทำให้คนเริ่มมั่นใจกับญี่ปุ่นมากขึ้น
2.2. กฎหมายใหม่ Governance Reform ทำให้ผู้ลงทุนได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น
ตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่นได้มีนโยบายใหม่มาสนับสนุนเพิ่ม โดยกำหนดให้บริษัทฯ ที่อยู่ในตลาดหุ้นญี่ปุ่น
- เปิดเผยข้อมูลให้กับนักลงทุนมากขึ้น ต้องมีฉบับภาษาอังกฤษให้นักลงทุนต่างประเทศ
- ถ้ามี P/BV ต่ำกว่า 1 จะต้องจ่ายปันผล หรือ ปรับโครงสร้างบริษัทฯ ให้ทำกำไรได้เพิ่มขึ้น
- ถ้าไม่มีแผนทำกำไรเพิ่ม แนะนำให้บริษัทฯ ประกาศแผนซื้อหุ้นคืน หรือ จ่ายปันผล
- ปัจจุบันหุ้นปันผลชั้นดีของญี่ปุ่นมี อัตราเงินปันผล
การซื้อหุ้นคืนจะทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้ และตัวเลขสำคัญที่สุดอย่าง กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เพิ่มขึ้น
2.3. มีเงินแห่ไหลเข้าญี่ปุ่น เหมือนกับกำลังหลบพายุ
ข่าวจาก Bloomberg ระบุว่ามีเงินเข้าหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านล้านเยน และ พันธบัตรญี่ปุ่น 6.1 ล้านล้านเยน
เงินไหลเข้าแบบนี้มีอะไรมั้ยนะ? คำตอบคือ มี
ถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ ญี่ปุ่นตอนนี้มี EPS เติบโตขึ้นและ P/E ยังต่ำ ราคายังไม่แพง
EPS โตขึ้น P/E ยังต่ำ แบบนี้อาจเป็นโอกาสรอบใหญ่ได้เลยหรือเปล่า?
สรุปญี่ปุ่นตอนนี้คือดูดีทั้งพื้นฐาน ทั้งกระแสเงินที่ไหลเข้า ใครหาตลาดที่มั่นคงหน่อย ญี่ปุ่นนี่น่าจับตา
3. อยากลงทุนให้ปลอดภัย กองทุนหุ้นญี่ปุ่น ช่วยได้
ถ้าเราสนใจหุ้นญี่ปุ่น เราลงทุนได้ผ่านกองทุนรวมบนแอป Liberator
กองทุนที่ถูกเลือกมาพูดถึงในรายการนี้ คือ กองทุน ONE-UJE-RA
กองทุนนี้เป็น Feeder Funds ที่จะโยกเงินไปปรับสัดส่วน เลือกหุ้นญี่ปุ่นที่เหมาะสมกับช่วงนั้นๆ มาให้
อย่างตอนนี้ คนมองหาความปลอดภัยจะเน้นหาหุ้นพื้นฐานดี เน้นค้าขายในประเทศเป็นหลัก
บริษัทฯ ที่กองทุนนี้ถืออยู่ เช่น โซนี่, มิตซูบิชิ, โตเกียวมารีน, ยูนิโคล่
รู้จักและเคยเห็นกันมาก่อนแล้วทั้งนั้น มาดูจังหวะกันสักหน่อย
มุมมองทางเทคนิค
ถ้าเราประเมินจากดัชนี Nikkei ซึ่งเป็นตัวแทนหุ้นญี่ปุ่น
แนวต้าน 37,000 จุด / 40,700 จุด
แนวรับ 35,000 จุด / 30,500 จุด / 26,000 จุด
ดังนั้น ถ้าจะมองหาจังหวะลงทุน เราควรมองหาสัญญาณกลับตัวที่แนวรับทั้ง 3 ระดับ
เริ่มต้นลงทุนกองทุนนี้ด้วยเงิน 120,000 บาท ตั้งแต่ปี 2021 ตอนนี้มีเท่าไหร่?
เรามาลองดูกันว่าถ้าเราย้อนกลับไปได้ มี 3 ทางเลือก ตอนนี้จะมีเงินเท่าไหร่
- Lumpsum มีเงินก้อน พร้อมลงทุนทีเดียวเลย 120,000 บาท
- DCA ทยอยเก็บเงินเดือนละนิดๆ แล้วทยอยลงทุนระยะยาว เดือนละ 2,500 บาท
- ไม่ลงทุนเลย ยอมสู้กับเงินเฟ้อ เงินสดเรามูลค่าจะลดลงไป 5%
*ผลตอบแทนในอดีตไม่ได้การันตีผลตอบแทนในอนาคต ต้องวางแผนจัดการความเสี่ยงของตัวเองด้วยน้า*
ไม่อยากพลาดโอกาสนี้ มาลองดูกองทุนหุ้นญี่ปุ่นบนแอป Liberator ได้เลย
มีคำถามเรื่องการดาวน์โหลดแอปและเปิดบัญชี สอบถามได้ทางข้อความที่
@Liberator
Liberator Securities
02-028-7441