BERKSHIRE เปลี่ยนยุค Buffett ปิดตำนาน ส่งไม้ต่อ Greg Abel

ประกาศจะ “ไปอยู่เบื้องหลัง” หยุดเป็น CEO และหยุดเขียนจดหมายผู้ถือหุ้นเองเขาเลือกแล้วว่า Greg Abel จะขึ้นมารับตำแหน่ง CEO ต่อ
Greg Abel คือใคร? เส้นทางจากเด็ก Edmonton สู่เก้าอี้ CEO Berkshire
2.1 พื้นเพและการศึกษา
ชื่อเต็ม Gregory Edward Abel เกิด 1 มิถุนายน 1962 เมือง Edmonton, Alberta, แคนาดา
โตในครอบครัวชนชั้นแรงงาน ทำงานจิปาถะตั้งแต่เด็ก ทั้งแจกใบปลิว เก็บขวด คืนร้าน เพื่อหารายได้เอง
เล่นฮ็อกกี้และอเมริกันฟุตบอลเป็นงานอดิเรก – สิ่งที่เขามักเล่าว่าช่วยปลูกฝังเรื่อง “ทีมเวิร์ก” และ “วินัย”
ด้านการศึกษา
จบปริญญาตรีสาขาบัญชีจาก University of Alberta ปี 1984
เริ่มงานสายบัญชีเต็มตัว เป็นนักบัญชี/ผู้สอบบัญชีที่ PricewaterhouseCoopers (PwC) สำนักงานซานฟรานซิสโก
พื้นฐานสายบัญชี+ตรวจสอบงบ ทำให้ Abel เข้าใจ “ตัวเลขหน้างบการเงิน” อย่างลึกตั้งแต่ต้น ซึ่งจะกลายเป็นจุดแข็งสำคัญในงานบริหารบริษัทใช้เงินลงทุนหนา ๆ ภายหลัง
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดในปี 1992
+ Abel ถูกดึงตัวจาก PwC ไปเข้าบริษัทผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนใต้พิภพชื่อ CalEnergy
+ ช่วงปลายยุค 1990s CalEnergy ซื้อกิจการ MidAmerican Energy และต่อมา Berkshire Hathaway เข้าถือหุ้นควบคุมในปี 1999
+ Abel ค่อย ๆ ไต่ตำแหน่งขึ้นจนได้เป็น CEO ของ MidAmerican (ซึ่งต่อมาถูกรีแบรนด์เป็น Berkshire Hathaway Energy – BHE ในปี 2014)
2.3 ก้าวเข้าสู่ศูนย์กลางของ Berkshire
พฤษภาคม 2025: ในงานประชุมผู้ถือหุ้นและในการให้สัมภาษณ์หลายแห่ง Buffett ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า Abel จะเป็นผู้สืบทอด CEO เมื่อเขาถอยจากตำแหน่งสิ้นปี 2025
Buffett เคยยกย่อง Abel ว่า “เข้าใจธุรกิจต่าง ๆ ของ Berkshire อย่างลึกซึ้ง และมีมาตรฐานด้านจริยธรรมสูง” ส่วน Charlie Munger ก็เคยพูดถึงเขาในทำนองว่าเป็น “เครื่องจักรการเรียนรู้ที่ดีเยี่ยม” แม้คำพูดหลังจะอ้างถึง “learning machine” ในบริบทกว้าง แต่สื่อการลงทุนมักใช้คำนี้อธิบายสไตล์ของ Abel อยู่บ่อย ๆ
จุดที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ
ในปี 2022 Abel ขายหุ้น 1% ใน BHE ได้เงินประมาณ 870 ล้านดอลลาร์
ต่อมาในปี 2022–2023 เขานำเงินส่วนหนึ่งมาซื้อหุ้น Berkshire Class A ราว 168 หุ้น มูลค่าประมาณ 68 ล้านดอลลาร์ จาก Buffett เอง
นี่คือ “Skin in the game” ระดับสูง – เขาไม่ได้แค่รับเงินเดือน แต่ผูกความมั่งคั่งของตัวเองเข้ากับผลลัพธ์ของ Berkshire โดยตรง
มกราคม 2018: Abel ได้รับแต่งตั้งเป็น Vice Chairman – Non-Insurance Operations ของ Berkshire และเข้าเป็นบอร์ดไดเรกเตอร์ ดูแลทุกธุรกิจที่ไม่ใช่ประกัน เช่น BNSF, BHE, กลุ่มอุตสาหกรรมและค้าปลีกต่าง ๆ
3. สไตล์การบริหาร: จาก Buffett สายลงทุน สู่ Abel สายปฏิบัติการ
3.1 Buffett vs Abel: โฟกัสคนละจุด แต่ใช้ฐานคิดเดียวกัน
Warren Buffett
ถนัด: การจัดสรรเงินทุน (capital allocation), การมองภาพใหญ่, ดีลซื้อกิจการ/หุ้นระยะยาว
สไตล์: กระจายอำนาจสูง ให้ CEO บริษัทย่อยบริหารเองแทบทุกเรื่อง เน้นเลือก “คน” ให้ถูก แล้วปล่อยทำงาน
Greg Abel
ถนัด: การบริหารธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่, การจัดการโครงการลงทุนยักษ์, เข้าใจด้านกฎระเบียบพลังงานและสาธารณูปโภค
สไตล์: ลงรายละเอียดมากขึ้น (more hands-on) ถามคำถามเชิงปฏิบัติการกับผู้จัดการ เน้นประสิทธิภาพและการทำงานร่วมกันระหว่างบริษัทย่อยมากกว่าเดิม
ทั้งคู่มี “ฐานคิดร่วม” เรื่องการมองระยะยาว, conservative finance, ไม่ใช้หนี้เกินตัว และไม่ทำดีลที่ไม่เข้าใจ แต่ เลนส์ที่ใช้มองธุรกิจต่างกัน
3.2 ตัวอย่างสไตล์ Abel: การจัดการ BNSF
BNSF เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ถูกจับตาหนักที่สุด เพราะ
กำไรปี 2023 ลดลงมากกว่าที่ Buffettคาด ทั้งจากรายได้ขนส่งที่ลดลง และต้นทุนค่าแรงที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
รายงานบางแห่งระบุว่า Abel แสดงความไม่พอใจต่อผลลัพธ์ของ BNSF และมีบทบาทในการผลักดันให้ปรับโครงสร้างการดำเนินงาน เช่น การดึงผู้บริหารที่มีประสบการณ์ด้าน precision scheduled railroading เข้ามาช่วยคิดเรื่องประสิทธิภาพเครือข่ายรถไฟ แม้บริษัทจะไม่ใช้ PSR เต็มรูปแบบก็ตาม
นี่เป็นตัวอย่างว่าในยุค Abel
Berkshire อาจยัง “กระจายอำนาจ” อยู่
แต่การติดตามผลและตั้งคำถามเชิงปฏิบัติการจะเข้มข้นขึ้น
4. สัญญาณล่าสุดจากฝั่งการลงทุน: ดีล Alphabet (Google) ก่อนส่งไม้ต่อ
ฝั่งพอร์ตหุ้นก็มีสัญญาณน่าสนใจมากในช่วงก่อน Abel ขึ้นเป็น CEO อย่างเป็นทางการ
Q3/2025 Berkshire เปิดเผยการเข้าถือหุ้น Alphabet (Google) ประมาณ 17.8–17.9 ล้านหุ้น มูลค่าราว 4.3–4.9 พันล้านดอลลาร์ กลายเป็นหนึ่งใน 10 อันดับถือครองหุ้นใหญ่ของพอร์ตทันที
ในเวลาเดียวกัน Berkshire ลดสัดส่วนการถือหุ้น Apple ลงต่อเนื่อง แต่ Apple ยังเป็นหุ้นเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในพอร์ต (มูลค่าราว 6 หมื่นล้านดอลลาร์+)
หลายสำนักวิเคราะห์มองว่าดีล Alphabet น่าจะมีส่วนผลักดันจากทีมผู้จัดการลงทุนอย่าง Todd Combs และ Ted Weschler มากกว่า Buffett โดยตรง แต่การที่ดีลนี้เกิดขึ้นในช่วงปลายยุค Buffett และต้นยุค Abel สะท้อน 2 เรื่องที่นักลงทุนควรเห็น:
-
Berkshire พร้อม “ขยับน้ำหนัก” ใน Tech ที่มีฐานกระแสเงินสดชัดเจนและมีบทบาทในโลก AI เช่น Alphabet ไม่ได้ปิดประตูใส่ Tech แบบเหมารวมอีกต่อไป
-
ฝั่ง CEO ใหม่จะต้องคุมทั้ง ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิม และ พอร์ตหุ้น Tech ยักษ์ใหญ่ ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งทำให้ “ภาพรวมความเสี่ยง–โอกาส” ของ Berkshire เปลี่ยนไปจากเดิม
5. นักลงทุนควร “จับตาอะไร” ในยุค Greg Abel
ถ้าอยากติดตาม Berkshire แบบมีระบบ แนะนำ 4 แกนต่อไปนี้
5.1 การใช้เงินสดและดีล M&A
เงินสด+พันธบัตรระดับ 3 แสนกว่าพันล้านดอลลาร์ คือ “กระสุน” ระดับประเทศหนึ่ง ๆ
ถามตัวเองว่า Abel ใช้เงินก้อนนี้ไปกับอะไร:
ดีลโครงสร้างพื้นฐาน/พลังงานที่เขาถนัด?
หรือขยับเข้า Tech/AI มากขึ้น แบบ Alphabet?
ทุกดีลสะท้อนมุมมองระยะยาวของ CEO ใหม่โดยตรง
5.2 ผลประกอบการของ BNSF และ BHE
ดู margin และ ROIC (ผลตอบแทนต่อเงินลงทุน) ว่าดีขึ้นไหม
ดูว่า BHE จัดการความเสี่ยงด้าน ESG และกฎระเบียบอย่างไร ในขณะที่ยังรักษากระแสเงินสดหลักไว้
ดูว่า BNSF สามารถยกระดับประสิทธิภาพโดยไม่ทำลายคุณภาพบริการได้หรือไม่
ถ้า Abel พลิกสองก้อนนี้ได้แม้เพียงเล็กน้อย ผลกระทบต่อมูลค่า Berkshire ระยะยาวจะใหญ่กว่าที่ตัวเลขรายไตรมาสบอก
5.3 ความต่อเนื่องของวัฒนธรรม Berkshire
สิ่งที่ทำให้ Berkshire “ไม่เหมือนใคร” คือวัฒนธรรม:
+ คิดยาว ไม่เล่นเกมระยะสั้น
+ ซื่อสัตย์กับผู้ถือหุ้น ขยายความผิดพลาดให้เห็น ไม่ใช่ปกปิด
+ ให้ CEO บริษัทย่อยอิสระ แต่ต้องรับผิดชอบเต็มที่
Buffett ย้ำในจดหมายล่าสุดว่าเขาเลือก Abel เพราะมั่นใจว่า “ไม่มี CEO นักวิชาการ หรือเจ้าหน้าที่รัฐคนไหน ที่เขาอยากให้มาดูแลเงินของผู้ถือหุ้นมากกว่า Abel” ซึ่งหมายความว่ามิติเรื่องคุณค่าภายใน (values) คือจุดคัดเลือกระดับแรกสุดของเขา
นักลงทุนควรดูว่าในยุค Abel
จดหมายผู้ถือหุ้นยังรักษาความตรงไปตรงมานี้ไหม
โครงสร้าง incentive ของผู้บริหารยังเน้นระยะยาวเหมือนเดิมหรือเปล่า
5.4 บทบาทของทีมลงทุน (Combs / Weschler)
หลัง Buffett ถอยบทบาท นักลงทุนต้องคุ้นชื่อ Todd Combs และ Ted Weschler มากขึ้น
+ ทั้งคู่ช่วยผลักดันดีลสำคัญอย่าง Apple ในอดีต และมีเครดิตจากการลงทุน Tech หลายตัว
+ ดีล Alphabet ล่าสุดก็ถูกมองว่าเป็นผลงานในแนวทางเดียวกัน
ยุคต่อไปของ Berkshire จึงอาจเป็นรูปแบบ “Operator CEO + Professional Investors” ทำงานร่วมกันมากขึ้น ซึ่งต่างจากภาพ “สุดยอดนักลงทุนคนเดียวคุมทุกอย่าง” ในอดีต
นักลงทุนที่ตามดูประเด็น 4 แกนด้านบนอย่างสม่ำเสมอ
จะไม่ใช่แค่ “ตามข่าวปู่”
แต่กำลังมอง Berkshire เป็น “กิจการที่เราร่วมเป็นเจ้าของ”
ซึ่งคือวิธีคิดแบบเดียวกับที่ Buffett สอนมาเกือบ 60 ปีเต็ม
===================
ที่มา (References)
จดหมายผู้ถือหุ้นและเอกสารของ Berkshire Hathaway
https://www.berkshirehathaway.com/
===================
Disclaimer:
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่นักลงทุนเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
นักลงทุนควรศึกษาลักษณะสินค้าและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด
ก่อนตัดสินใจ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดพิจารณาให้รอบคอบ
===================

