ความรู้หุ้น

Charlie Munger Code คิดกลับหัวอย่างเดียว เปลี่ยนพอร์ตลงทุนได้ทั้งชีวิต

Charlie Munger คู่คิดตลอดกาลของ Warren Buffett ไม่ได้สอนให้ “เลือกหุ้นดี” แต่สอนให้ “เลี่ยงหุ้นแย่” แนวคิดแบบกลับหัว (Inversion Thinking) ของเขา คือรหัสลับที่นักลงทุนยุคนี้ต้องเข้าใจ

Charlie Munger Code “รู้ว่าจะเจออันตรายที่ไหน… เพื่อจะได้ไม่เดินไปที่นั่น

เวลาเราพูดถึง Warren Buffett
ทุกคนรู้ว่าเขาคือหนึ่งในนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

แต่สิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้คือ
เบื้องหลังแนวคิดการลงทุนทั้งหมดของ Buffett
มี “ชายแว่นแก่” ที่ชื่อ Charlie Munger
ผู้เปลี่ยนมุมมองการลงทุนของ Buffett ไปตลอดกาล

 

จุดเริ่มต้นของแนวคิด “คิดกลับหัว” (Inversion Thinking)

ในงานประชุมผู้ถือหุ้น Wesco Financial
ช่วงปลายทศวรรษ 1980s
Munger กล่าวกับนักลงทุนในห้องประชุมว่า:

“All I want to know is where I’m going to die, so I’ll never go there.”
“ผมแค่อยากรู้ว่าผมจะตายที่ไหน เพื่อจะได้ไม่เดินไปที่นั่น”

ประโยคนี้กลายเป็นตำนานของโลกการลงทุน
และถูกบันทึกไว้ในหนังสือ Poor Charlie’s Almanack (2005)
ซึ่งรวบรวมคำพูดและหลักคิดของ Munger ไว้อย่างละเอียด

 

ความหมายที่ลึกกว่าคำพูด

คำพูดนี้ฟังดูเหมือนตลก
แต่แท้จริงแล้วคือหลักการคิดแบบกลับหัวที่ Munger ใช้กับทุกเรื่องในชีวิต
ไม่ว่าจะเป็น การลงทุน การตัดสินใจ หรือการบริหารธุรกิจ

แนวคิดนี้เรียกว่า

Inversion Thinking — “คิดจากปลายทางกลับมา”

แทนที่จะถามว่า
“เราจะประสบความสำเร็จได้ยังไง?”
Munger จะถามว่า
“อะไรที่จะทำให้เราล้มเหลว?”

เพราะหลายครั้งการหลีกเลี่ยงสิ่งที่แย่
ให้ผลลัพธ์ดีกว่าการพยายามหาสิ่งที่ดีที่สุด

 

ตัวอย่างการใช้แนวคิด Inversion

เวลา Buffett อยากซื้อหุ้นตัวใหม่
เขามักจะโทรไปถาม Munger
และเกือบทุกครั้ง Munger จะตอบว่า “ไม่”

เขาไม่ถามว่า “หุ้นนี้ดีไหม?”
แต่ถามว่า “หุ้นนี้จะทำให้เราพังยังไง?”

เช่น เขาเคยปฏิเสธหุ้นที่ทำกำไรเป็นสิบเด้งอย่าง

Valeant Pharmaceuticals (เพราะขึ้นราคายาเกินจริงจนคนไข้เดือดร้อน)

Conwood (บริษัทบุหรี่แบบเคี้ยว ที่ทำให้คนติดและป่วย)

Credit Acceptance (ปล่อยกู้ดอกโหดให้คนจน)

แม้หุ้นเหล่านี้จะขึ้นแรง
แต่ Munger ไม่สน เพราะมันคือ “Win-Lose Business”
เขาเชื่อว่า ธุรกิจที่ดีต้องเป็น Win-Win-Win
คือผู้ถือหุ้น ลูกค้า และพนักงานได้ประโยชน์พร้อมกัน

 

หลักการคิดกลับหัวในชีวิตจริง

Munger เคยพูดในหนังสือ Poor Charlie’s Almanack ว่า

“หลีกเลี่ยงความโง่ให้ได้มากที่สุด คุณไม่จำเป็นต้องฉลาดกว่าคนอื่น แค่โง่น้อยกว่าก็พอ”

ตัวอย่างที่เขาใช้จริงในชีวิตคือ

อยากรวย? — ก็อย่าใช้จ่ายเกินตัว

อยากมีชื่อเสียง? — ก็อย่าทำเรื่องผิดศีลธรรม

อยากเป็นนักลงทุนที่ดี? — ก็อย่าซื้อสิ่งที่ไม่เข้าใจ

การคิดกลับหัวช่วยให้เราตัดสินใจง่ายขึ้น
เพราะเรามองเห็น “สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง” ก่อนเสมอ

 

Inversion ในมุมการลงทุน

Munger เชื่อว่า การลงทุนที่ดี
ไม่ใช่การหา “หุ้นที่จะขึ้น”
แต่คือการ เลี่ยงสิ่งที่จะทำให้พอร์ตเราพัง

เขาใช้ 3 คำถามนี้ก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

  1. บริษัทนี้เข้าใจจริงไหม (Circle of Competence)

  2. โมเดลธุรกิจสร้างคุณค่าให้ลูกค้าหรือแค่เอาเปรียบ

  3. ทีมบริหารซื่อสัตย์พอให้เราถือหุ้นระยะยาวไหม

ถ้าคำตอบข้อใด “ไม่แน่ใจ” เขาจะ “ไม่ลงทุน”

เพราะ Munger เชื่อว่า

“การไม่เสียเงินสำคัญกว่าการได้กำไร”

 

ความอดทนคือ Edge ที่แท้จริง

Munger มักพูดว่า

“The big money is not in the buying or the selling, but in the waiting.”

เขาเชื่อว่าความมั่งคั่งเกิดจาก “การรอ”
ไม่ใช่ “การเทรด”

พอร์ตของ Berkshire Hathaway ส่วนใหญ่คือหุ้นที่ถือยาวหลายสิบปี
อย่าง Coca-Cola, See’s Candies และ Apple

เขามองว่าการถือหุ้นดีๆ ให้นานพอ
คือการ “ไม่เดินไปที่เราจะตาย” ของนักลงทุน

 

ทำไม Buffett ถึงเรียก Munger ว่า “ครู”

ก่อนเจอ Munger
Buffett ยังเป็นนักลงทุนสายเน้น “หุ้นถูก” (Cigar Butt Investing)
แต่หลังจากรู้จักกัน
Munger เปลี่ยนแนวคิดของ Buffett ไปตลอดกาล

เขาบอก Buffett ว่า

“Warren นายควรซื้อธุรกิจที่ยอดเยี่ยม ในราคายุติธรรม
มากกว่าซื้อธุรกิจธรรมดา ในราคาถูก”

นั่นคือจุดที่ Berkshire เปลี่ยนจากกองทุนเก็งกำไร
กลายเป็น “อาณาจักรแห่งธุรกิจคุณภาพ” ที่สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยกว่า 20% ต่อปี

 

ที่มา (References)

Poor Charlie’s Almanack: The Wit and Wisdom of Charles T. Munger (2005)

Wesco Financial Annual Meeting Archives

Berkshire Hathaway Shareholder Letters

CNBC Interview: “The Psychology of Human Misjudgment”

===================

FINCODE

ซีรีส์ที่จะมาปลดล็อก CODE ลับทางการเงิน
ทั้งเรื่อง การลงทุน และ เรื่องฟินๆ ในโลกการเงิน
ที่ถ้าคุณรู้และใช้ได้จริง วิธีทางการเงินจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

และนี่เป็นแค่จุดเริ่มต้น…
เพราะยังมี FINCODE อีกหลายโค้ดลับ
ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีใช้ “CODEการเงิน” เพื่อให้ชีวิตฟินขึ้น

===================

Loading...